ในค่ำคืนที่เงียบสงัด บ้านหลังใหญ่ในซอยลึกถูกปกคลุมด้วยเงามืด เฉพาะแสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างลงบนพื้น กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ลอยอบอวลในอากาศ ปนเปไปกับความตึงเครียดที่สัมผัสได้ เธอยืนอยู่ตรงหน้าผม ดวงตาคู่สวยของเธอเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ราวกับกำลังต่อสู้กับพายุในใจ
“พ่อคะ...” เสียงของเธอแผ่วเบา สั่นเครือราวสายลมที่พัดผ่านใบไม้แห้ง เธอหยุดชะงัก มือเรียวบางยกขึ้นราวจะผลักผมออก แต่กลับกลายเป็นสัมผัสที่อ่อนโยนบนหน้าอกของผม “เราไม่ควร...” เธอพูดต่อ คำพูดนั้นเหมือนคำสารภาพที่เจ็บปวด ดวงตาของเธอหลุบลง ราวกับไม่อาจทนมองความปรารถนาที่กำลังลุกโหมในแววตาของผม
แต่ร่างกายของเธอกลับทรยศคำพูดนั้น ผมสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากผิวกายนุ่มนวลของเธอ ผ่านชุดนอนบางเบาที่แทบจะปกปิดอะไรไม่ได้ กลิ่นกายของเธอชวนให้ใจเต้นระรัว ราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งในยามค่ำคืน ผมก้าวเข้าใกล้ จนระยะห่างระหว่างเราหายไป ลมหายใจของเธอร้อนผ่าวกระทบผิวของผม ขณะที่มือของผมค่อย ๆ ลูบไล้ลงไปตามแนวโค้งของเอวเธอ
“บอกพ่อสิว่าไม่ต้องการ” ผมกระซิบข้างหูเธอ เสียงของผมทุ้มนุ่ม แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทาย เธอตัวสั่น มือของเธอเกาะแน่นที่ไหล่ของผม ราวกับกำลังยึดเกาะเพื่อไม่ให้จมลงในห้วงแห่งความรู้สึกที่กำลังครอบงำ
“มัน... มันผิด” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเป็นการครวญคราง แต่ขณะที่คำพูดนั้นหลุดออกมา ผมรู้สึกถึงความชุ่มชื้นที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าบาง ๆ นั้น มันร้อนแรงและเชื้อเชิญ ราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องราวที่ปากของเธอปฏิเสธจะเอ่ย ผมยิ้มมุมปาก มือของผมค่อย ๆ เลื่อนลงต่ำ ลากผ่านผิวเนียนนุ่มของต้นขาเธอ ก่อนจะสัมผัสถึงความเปียกชื้นที่ไม่อาจโกหกได้
“ผิดหรือไม่ มันไม่สำคัญ” ผมกล่าว ขณะที่นิ้วของผมสำรวจอย่างช้า ๆ กระตุ้นให้ร่างของเธอสั่นสะท้าน เธอหลับตาลง ริมฝีปากสีชมพูเผยอออกเล็กน้อย ปล่อยเสียงถอนหายใจที่เต็มไปด้วยความยอมจำนน “สิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่เรารู้สึกตอนนี้ต่างหาก”
ผมดึงเธอเข้ามาใกล้ จนร่างของเราประกบชิดกัน ความร้อนจากร่างกายของเธอราวกับจะเผาผลาญผมให้มอดไหม้ ผมจูบเธอ ริมฝีปากของเราประกบกันอย่างเร่าร้อน รสชาติของเธอหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ผสมผสานกับความเค็มจาง ๆ จากหยาดน้ำตาที่ไหลลงมา เธอตอบรับการจูบของผมด้วยความหิวกระหาย ราวกับทุกข้อห้ามในใจของเธอได้พังทลายลง
ผมค่อย ๆ นำพาเธอลงสู่เตียงนุ่ม กางเกงบาง ๆ ที่ห่อหุ้มส่วนล่างเลื่อนหลุดลงอย่างง่ายดาย ดวงตาของผมจับจ้องที่ความโค้งเว้าอันสมบูรณ์แบบของร่างกายเธอ ขณะที่แสงจันทร์สาดส่องลงมา ราวกับกำลังยกย่องความงามของเธอ ผมก้มลง จูบที่ซอกคอของเธออย่างแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวของผมทำให้ผิวของเธอสั่นระริก เธอครางเบา ๆ มือของเธอควานหาที่เกาะยึด จนเล็บของเธอจิกแน่นลงบนหลังของผม
ผมเลื่อนริมฝีปากลงต่ำ ไล้ไปตามแนวกระดูกไหปลาร้า ลงสู่ความอ่อนนุ่มของหน้าอกที่เต่งตึง ทุกสัมผัสของผมทำให้ร่างของเธอโค้งรับ เสียงครางของเธอดังขึ้นเรื่อย ๆ มันทั้งหวานฉ่ำและเร่าร้อน ผมใช้เวลากับทุกส่วนของร่างกายเธอ มือของผมสำรวจลงไปยังจุดที่ร้อนแรงและเปียกชื้นนั้นอีกครั้ง นิ้วของผมเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ แต่หนักแน่น ทำให้ร่างของเธอสั่นสะท้านราวถูกกระแสไฟฟ้าช็อต
“พ่อคะ... ได้โปรด...” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอ้อนวอนและเร่งเร้า ผมมองเข้าไปในดวงตาของเธอ เห็นเพียงความปรารถนาที่ลุกโชนราวเปลวเพลิง ผมถอนตัวขึ้นเล็กน้อย ถอนเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโน้มตัวลงครอบครองเธออย่างสมบูรณ์ ความร้อนและความชุ่มชื้นของเธอต้อนรับผมอย่างสมบูรณ์แบบ ราวกับเราถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน
ผมค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปในตัวเธออย่างนุ่มนวล แต่หนักแน่น ทุกนิ้วของการเคลื่อนไหวถูกควบคุมด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้เธอรู้สึกถึงทุกสัมผัส ภายในของเธอโอบล้อมผมไว้แนบแน่น มันทั้งนุ่มนวลและรัดแน่นในเวลาเดียวกัน เธอถอนหายใจยาว ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความสุขที่ไม่อาจซ่อนได้ มือของเธอกอดรัดรอบคอผม ขณะที่ขาของเธอโอบรอบเอวผม ราวกับจะดึงผมให้ลึกเข้าไปยิ่งกว่าเดิม
ผมเริ่มเคลื่อนไหวช้า ๆ ในตอนแรก ปล่อยให้ร่างกายของเราค่อย ๆ ปรับเข้าหากัน ทุกการผลักดันของผมถูกตอบรับด้วยการโค้งตัวของเธอ เสียงครางของเธอเริ่มดังขึ้น ผสมผสานกับลมหายใจที่หอบถี่ของผม ผมสัมผัสถึงความชุ่มชื้นที่เพิ่มมากขึ้น ราวกับน้ำพุแห่งความปรารถนาที่ไหลล้นออกมาไม่ขาดสาย ผมจูบที่ริมฝีปากของเธอ ขณะที่จังหวะของผมเริ่มเร่งเร็วขึ้น ความร้อนระหว่างเราทวีคูณราวเปลวเพลิงที่กำลังลุกโหม
“ลึกกว่านี้...” เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงที่แทบขาดเป็นเสี่ยง คำขอของเธอจุดไฟในตัวผมให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น ผมตอบสนองด้วยการผลักดันที่หนักแน่นและลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม ทุกการเคลื่อนไหวของผมทำให้ร่างของเธอสั่นสะท้าน เสียงร้องของเธอดังก้องในห้อง ผสมผสานกับเสียงของร่างกายที่กระทบกัน ราวกับบทเพลงแห่งความหลงใหลที่ไม่อาจหยุดยั้ง ผมรู้สึกถึงความตึงแน่นที่เพิ่มขึ้นในตัวเธอ ราวกับร่างกายของเธอกำลังรัดรึงผมไว้เพื่อไม่ให้หลุดออกไป
การเคลื่อนไหวของเราค่อย ๆ เร่งจังหวะขึ้น ราวกับระบำแห่งความหลงใหลที่ไม่อาจหยุดยั้ง เสียงลมหายใจที่หอบถี่ของเธอผสมผสานกับเสียงครางของผม กลายเป็นซิมโฟนีแห่งความรักที่ดังก้องในห้องนั้น ทุกสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหว ล้วนเต็มไปด้วยความโหยหาและความสมบูรณ์ ร่างของเธอโค้งงอรับการเคลื่อนไหวของผม ขณะที่เล็บของเธอจิกแน่นลงบนผิวของผมราวจะฉีกมันออก
ในที่สุด ความสุขอันสุดยอดก็พุ่งถึงจุดสูงสุด เธอร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง ร่างของเธอสั่นสะท้านในอ้อมแขนของผม ขณะที่ผมเองก็จมลงในห้วงแห่งความสุขอันล้นหลามนั้นเช่นกัน เราเกาะกุมกันแน่น ราวกับกลัวว่าความจริงจะพรากช่วงเวลานี้ไปจากเรา
ในคืนนั้น ใต้แสงจันทร์อันเย็นเยียบ ไม่มีคำว่าบาปหรือความผิด มีเพียงเรา สองร่างที่โหยหาและหลงใหลในกันและกัน............
กดติดตามทวิตไว้นะ
ทวิตสำรอง
เผื่อทวิตบิน อย่าลืมแอด VK เอาไว้นะ

ความคิดเห็น