ลูกชายกลายเป็นสาว (สาวดุ้น)


เอเวอรี่นั่งอยู่บนโซฟานุ่มในห้องนั่งเล่นอันเงียบสงบ มือเรียวบางของเธอประคองถ้วยชาอุ่นๆ กลิ่นหอมละมุนลอยวนรอบตัว เธอสวมชุดเดรสผ้าฝ้ายสีขาวบางเบาที่ปล่อยให้ลมเย็นยามบ่ายพัดพาให้พลิ้วไหว ผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบหลวมๆ เผยให้เห็นคอระหงและไหล่เนียนที่ถูกแสงแดดแตะต้อง เอเวอรี่ วัยสามสิบห้าปี สาวม่ายที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายหลังจากการสูญเสียสามีเมื่อสองปีก่อน วันนี้เธอปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับความคิดและความทรงจำ จนกระทั่งเสียงออดหน้าประตูดังขึ้น ทำลายความเงียบ

เอเวอรี่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะไม้ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย เพราะไม่ค่อยมีแขกมาเยือนโดยไม่บอกกล่าว เธอลุกขึ้น เดินไปที่ประตูหน้าบ้านด้วยฝีเท้าที่สง่างาม เมื่อเปิดประตูออก สายตาของเธอก็ต้องหยุดนิ่ง รูปกายของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเกินกว่าที่เธอจะคาดถึง

“อเล็กซ์?” เสียงของเอเวอรี่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่แฝงด้วยความอบอุ่น

ตรงหน้าเธอคือคนที่เคยเป็นลูกชายเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนี้…เขาไม่ใช่ลูกชายคนเดิมอีกต่อไป อเล็กซ์ในวันนี้มีผมยาวเงางามที่ทิ้งตัวลงมาถึงไหล่ ใบหน้าที่เคยคมเข้มของเด็กหนุ่มถูกแทนที่ด้วยความงามที่อ่อนโยนและเย้ายวน ดวงตาคู่โตที่ประดับด้วยขนตายาว ริมฝีปากที่ทาด้วยสีแดงระเรื่อ และร่างกายที่โค้งเว้าในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มที่รัดรอบเอวบาง อเล็กซ์ยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันขาวเป็นระเบียบ ความมั่นใจในตัวเองฉายชัดในทุกอิริยาบถ

“แม่คะ! นานมากเลยนะที่เราไม่ได้เจอกัน” อเล็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะและนุ่มนวลกว่าในอดีต เธอก้าวเข้ามากอดเอเวอรี่อย่างเป็นธรรมชาติ กลิ่นน้ำหอมวานิลลาอ่อนๆ จากตัวอเล็กซ์ลอยมาสัมผัสจมูกของเอเวอรี่ ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“โอ้ อเล็กซ์…เธอสวยมาก” เอเวอรี่เอ่ยออกมาด้วยความจริงใจ ขณะที่ถอยออกจากการกอดเพื่อมองอเล็กซ์ให้ชัดขึ้น “เข้ามาสิ มาคุยกันในบ้าน”

ทั้งสองเดินเข้าสู่ห้องรับแขก อเล็กซ์นั่งลงบนโซฟาด้วยท่วงท่าสง่างาม ขาเรียวยาวของเธอวางไขว้กันอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่เอเวอรี่ยกถาดชามาวางบนโต๊ะ เธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นเล็กๆ ที่ไม่อาจอธิบายได้ บรรยากาศในห้องเริ่มอบอวลไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่ อเล็กซ์มองเอเวอรี่ด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง และรอยยิ้มที่เหมือนจะซ่อนบางอย่างไว้

“เล่าให้แม่ฟังหน่อยสิ อเล็กซ์” เอเวอรี่กล่าวขณะรินชาให้ “ชีวิตของลูกเปลี่ยนไปเยอะเลย…แม่อยากรู้ทุกอย่าง”

อเล็กซ์หัวเราะเบาๆ มือของเธอยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างช้าๆ ก่อนที่สายตาจะประสานกับเอเวอรี่ “อืม…เรื่องมันยาวเลยล่ะ แต่จะเริ่มจากตรงนี้ก่อน…ว่าหนูคิดถึงแม่มากแค่ไหน”

คำพูดนั้นทำให้หัวใจของเอเวอรี่สั่นไหว และในขณะนั้น เธอรู้สึกว่าบทสนทนานี้จะนำพาเธอไปสู่อะไรที่มากกว่าคำทักทายธรรมดาๆ
.
.
.
.
.
.
แสงแดดยามบ่ายค่อยๆ ลดความเข้มลง เอเวอรี่และอเล็กซ์นั่งอยู่บนโซฟา ถ้วยชาดอกมะลิที่เย็นลงแล้วถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ บทสนทนาของทั้งคู่ไหลลื่นราวสายน้ำ จากเรื่องราวชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของอเล็กซ์ การเดินทางของเธอในการค้นพบตัวตน และความกล้าที่จะเป็นผู้หญิงอย่างเต็มตัว เอเวอรี่ฟังลูกชายด้วยความตั้งใจ ดวงตาคู่สวยของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชมและความรู้สึกที่ยากจะนิยาม

“ลูกเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ” เอเวอรี่กล่าว น้ำเสียงนุ่มนวลขณะที่เธอจิบชาครั้งสุดท้าย “แม่หมายถึง…ลูกดูมั่นใจ สวยงาม และ…สมบูรณ์แบบในแบบของลูก”

อเล็กซ์ยิ้ม รอยยิ้มที่ทั้งอ่อนโยนและมีเลศนัย เธอเอียงศีรษะเล็กน้อย ผมยาวเงางามพลิ้วไหวไปตามการเคลื่อนไหว “ขอบคุณนะแม่ แต่…หนูก็ยังเป็นคนเดิมในบางส่วน แม่รู้ใช่มั้ย?” เสียงของเธอต่ำลงเล็กน้อย ราวกับกำลังชวนให้เอเวอรี่ดำดิ่งสู่ความลับบางอย่าง

เอเวอรี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ยังไงล่ะ? ลูกหมายถึงอะไร?” เธอถาม ความอยากรู้อยากเห็นในน้ำเสียงไม่อาจปกปิดได้

อเล็กซ์วางถ้วยชาลงบนโต๊ะ เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาของเอเวอรี่ สายตาที่ทั้งร้อนแรงและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน “แม่อยากรู้จริงๆ ใช่มั้ย…ว่าหนูเปลี่ยนไปแค่ไหน?” เธอหยุดชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน “หนูยังไม่ได้แปลงทั้งหมด…บางส่วนของหนูยังคงเหมือนเดิม เพื่อ…บางคน”

คำพูดนั้นทำให้เอเวอรี่รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากภายใน เธอกลืนน้ำลาย ความทรงจำเก่าๆ เมื่อครั้งที่อเล็กซ์ยังเป็นเด็กหนุ่มผุดขึ้นในใจ “ลูกหมายถึง…” เธอเอ่ยออกมาเบาๆ มือของเธอกำผ้าเดรสสีขาวแน่นโดยไม่รู้ตัว

อเล็กซ์ไม่ตอบด้วยคำพูด เธอลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ท่วงท่าสง่างามราวกับนางแบบบนรันเวย์ มือของเธอค่อยๆ เลื่อนไปที่ซิปด้านข้างของชุดเดรสสีน้ำเงินเข้ม เสียงซิปที่ถูกดึงลงดังเบาๆ แต่ชัดเจนในความเงียบของห้อง ผ้าผืนนั้นค่อยๆ ร่วงหล่นลงสู่พื้น เผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดที่ถูกแสงแดดยามบ่ายแต่งแต้ม อเล็กซ์ยืนอยู่ตรงนั้น เปลือยเปล่าโดยสิ้นเชิง ร่างกายที่โค้งเว้าสมบูรณ์แบบราวกับประติมากรรม แต่สิ่งที่ดึงสายตาของเอเวอรี่คือแท่งเนื้อที่ยังคงอยู่ตรงนั้น…ใหญ่โตและแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เธอเคยสัมผัสในอดีต

เอเวอรี่สูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย “อเล็กซ์…” เธอเอ่ยชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “มัน…ยังอยู่”

อเล็กซ์ก้าวเข้ามาใกล้ รอยยิ้มของเธอทั้งเย้ายวนและจริงใจ “หนูเก็บมันไว้ เพื่อแม่” เธอกล่าว น้ำเสียงของเธอราวกับคำสัญญา “จิตใจของหนูอาจเป็นผู้หญิง แต่ร่างกายส่วนนี้…หนูเก็บไว้ เพราะหนูยังโหยหาแม่ ยังอยากให้แม่รู้สึกถึงหนูเหมือนเมื่อก่อน”

คำพูดนั้นราวกับเปลวไฟที่จุดขึ้นในใจของเอเวอรี่ เธอรู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่ประหลาดใจ ความรู้สึกที่ทั้งตื่นเต้นและคุ้นเคยผสมปนเปกัน เธอลุกขึ้นยืน มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่ยกขึ้นปลดเดรสสีขาวของตัวเองออก ผ้าฝ้ายบางเบาร่วงหล่นลงพื้น เผยให้เห็นร่างกายที่ยังคงงดงามของเธอ ผิวเนียนนุ่มที่ถูกแสงแดดยามบ่ายแตะต้อง หน้าอกที่เต่งตึง และสะโพกที่โค้งมน อเล็กซ์จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหิวกระหาย แต่แฝงด้วยความรัก

“แม่ยังสวยเหมือนเดิม…ไม่ มากกว่าเดิมเสียอีก” อเล็กซ์กระซิบ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยอารมณ์

เอเวอรี่ไม่พูดอะไร เธอก้าวเข้าไปหาอเล็กซ์ มือของเธอแตะที่แก้มของอเล็กซ์อย่างนุ่มนวล ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะประสานกัน การจูบนั้นเริ่มต้นอย่างอ่อนโยน ราวกับการทักทายของคนรักเก่า แต่เพียงไม่กี่วินาที มันก็กลายเป็นความร้อนแรงที่ไม่อาจต้านทานได้ ลิ้นของทั้งคู่พันกันอย่างเร่าร้อน มือของเอเวอรี่เลื่อนลงไปสัมผัสผิวเนียนของอเล็กซ์ ขณะที่มือของอเล็กซ์โอบรอบเอวของเอเวอรี่ ดึงเธอเข้ามาใกล้จนร่างกายของทั้งคู่แนบชิด

เอเวอรี่นอนราบลงบนโซฟานุ่ม ผมของเธอกระจายตัวบนหมอนอิงราวกับผืนผ้าไหม ร่างกายเปลือยเปล่าของเธอส่องประกายภายใต้แสงอ่อนๆ ผิวเนียนนุ่มของเธอร้อนผ่าวด้วยความปรารถนา อเล็กซ์ ผู้ที่ผสมผสานความงามของผู้หญิงและพลังของผู้ชายไว้อย่างลงตัว คร่อมร่างของเอเวอรี่ด้วยท่วงท่าที่ทั้งมั่นใจและอ่อนโยน ดวงตาคู่สวยของเธอจ้องมองเอเวอรี่ราวกับกำลังจดจำทุกเส้นสายของร่างกายนั้น

อเล็กซ์ยกขาข้างหนึ่งของเอเวอรี่ขึ้นด้วยมือที่แข็งแรงแต่สัมผัสนุ่มนวล วางพาดบนไหล่ของเธออย่างระมัดระวัง ขาข้างที่เหลือของเอเวอรี่ถูกปล่อยให้วางแนบไปกับโซฟา สะโพกของเธอยกขึ้นเล็กน้อยตามแรงดึงของอเล็กซ์ เอเวอรี่สูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนของอเล็กซ์ที่ใกล้เข้ามา “อเล็กซ์…” เธอกระซิบชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ความคาดหวังและความโหยหาท่วมท้นในน้ำเสียงของเธอ

หนูอยากให้แม่รู้สึกถึงหนู…ทุกส่วนของหนู” อเล็กซ์กล่าว น้ำเสียงของเธอต่ำและเย้ายวน ผมยาวสีดำของเธอพลิ้วไหวลงมาแตะใบหน้าของเอเวอรี่ขณะที่เธอโน้มตัวลงเล็กน้อย อเล็กซ์ขยับสะโพกอย่างช้าๆ ส่งแท่งเนื้อที่แข็งแกร่งและร้อนผ่าวของเธอเข้าสู่ร่างของเอเวอรี่ จังหวะแรกนั้นนุ่มนวลราวกับการทักทาย แต่เพียงไม่กี่วินาที จังหวะนั้นก็เริ่มหนักแน่นและต่อเนื่อง เสียงลมหายใจของทั้งคู่ผสานกับเสียงสัมผัสของผิวที่เสียดสีกัน กลายเป็นบทเพลงแห่งความเร่าร้อนที่ดังก้องในห้องดัง ปัก ปัก ปัก ปัก

เอเวอรี่หลับตาลงครึ่งหนึ่ง มือของเธอยื่นไปคว้าไหล่ของอเล็กซ์แน่น เล็บของเธอจิกลงบนผิวเนียนของอเล็กซ์โดยไม่รู้ตัว “ลึกกว่านี้…” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเป็นการอ้อนวอน ความสุขที่แผ่ออกมาจากจุดที่ทั้งคู่สอดใส่กันทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน อเล็กซ์ยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มที่ทั้งรักใคร่และท้าทาย เธอโน้มตัวลง จูบริมฝีปากของเอเวอรี่อย่างดูดดื่ม การจูบนั้นร้อนแรงและลึกซึ้ง ลิ้นของทั้งคู่พันกันราวกับไม่อาจแยกจากกันได้ 

เอวของอเล็กซ์เริ่มเร็วขึ้น แรงขึ้น เสียงครางของเอเวอรี่ดังขึ้นในลำคอ ขณะที่มือของเธอเลื่อนลงไปกอดรอบเอวของอเล็กซ์ ดึงเธอให้เข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น “แม่แม่คิดถึงลูก…คิดถึงแบบนี้” เอเวอรี่กระซิบระหว่างจูบ น้ำตาแห่งความสุขและความโหยหาเอ่อล้นที่หางตาของเธอ อเล็กซ์ตอบกลับด้วยการจูบที่ลึกยิ่งกว่าเดิม มือของเธอกุมขาของเอเวอรี่แน่น ขยับสะโพกในจังหวะที่ทั้งหนักแน่นและนุ่มนวล ส่งทั้งคู่ให้ลอยสูงขึ้นไปในห้วงแห่งความสุข

ในที่สุด ความสุขนั้นก็ระเบิดออกมา ทั้งคู่ถึงจุดสูงสุดพร้อมกันอย่างรุนแรง ร่างกายของเอเวอรี่เกร็งแน่น เสียงร้องของเธอผสานกับเสียงครางทุ้มของอเล็กซ์ พร้อมกับน้ำรักที่ปลดปล่อยออกมาราวกับคลื่นยักษ์ อเล็กซ์ทรุดตัวลงบนร่างของเอเวอรี่ หายใจหอบถี่ หน้าผากของทั้งคู่แตะกัน กลิ่นเหงื่อและกลิ่นกายของทั้งคู่ผสมผสานกันในอากาศ

“แม่…ยังคงเป็นของหนู” อเล็กซ์กระซิบ ขณะที่มือของเธอเลื่อนไปกอดรอบตัวเอเวอรี่ เอเวอรี่ยิ้มอ่อนๆ มือของเธอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของอเล็กซ์อย่างรักใคร่ “และลูกก็เป็นของแม่…เสมอ” เธอตอบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความหลงใหล

ทั้งคู่นอนโอบกอดกันบนโซฟา ร่างกายที่ยังร้อนผ่าวแนบชิดกันราวกับไม่อาจแยกจากกันได้ แสงแดดยามเย็นค่อยๆ จางลง แต่ความอบอุ่นในอ้อมกอดของทั้งคู่ยังคงลุกโชนราวกับเปลวไฟที่ไม่มีวันดับ




กดติดตามทวิตไว้นะ

ทวิตสำรอง

เผื่อทวิตบิน อย่าลืมแอด VK เอาไว้นะ

ความคิดเห็น