เรื่องเสียวครอบครัวในตำนาน - อยากให้เป็นแค่จินตนาการ


เรื่องเสียวครอบครัวในตำนาน [Link]


"คุณพ่อคะ คุณพ่อ ตื่นได้แล้วค่ะ"

เสียงของ "น้องมีน" ลูกสาวคนสวยของผมกำลังปลุกเรียกในเช้าวันหนึ่ง

"เดี๋ยวมีนไปเรียนไม่ทันค่ะ"

เสียง สำทับจากลูกสาว ซึ่งโดยปกติ ผมจะขับรถไปส่งลูกสาวที่มหาวิทยาลัยทุกเช้า ด้วยความรักและห่วงใยแก เราอาศัยกันอยู่ในคอนโดเล็กๆ แห่งนึงแถบชานเมืองเพราะกำลังทรัพย์ที่มีไม่มาก ทำให้ผมหาซื้อได้เพียงเท่านี้ คิดแต่เพียงว่าขอให้มีที่ซุกหัวนอนก็พอ

แม่ ของน้องมีนจากเราไปตั้งแต่แกอายุ 12 ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ครอบครัวของเราเหลือกันเพียงสองพ่อลูกเท่านั้น น้องมีนเป็นเด็กดีและเรียนหนังสือดี ผมไม่เคยต้องมีปัญหากับการเรียนของแกเลย ตลอดเวลาจะพล่ามบอกกับลูกเสมอว่า ให้ตั้งใจเรียนเพื่อให้มีอนาคตที่ดี แกก็รับฟังอย่างเข้าใจและตั้งใจนำไปปฏิบัติ

"เป็นไงคะคุณพ่อ ชุดใหม่ของมีน"

แกเรียกให้ผมดูชุดนักศึกษาชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อสองวันก่อน

"อุ้ย… ทำไมมันสั้นนักล่ะลูกกระโปรงน่ะ"

ผม บอกอย่างตกใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมอุทานเมื่อเห็นชุดนักศึกษาของแกทุกๆ ครั้งที่อุทาน ดูเหมือนกระโปรงของแกจะสั้นกว่าเดิมทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

"ไม่หรอกค่ะคุณพ่อ ใครๆ ที่มหาลัยก็ใส่กัน เพื่อนๆ ในกลุ่มมีนก็แบบนี้ทั้งนั้น เวลาคุณพ่อไปรับไม่ได้สังเกตุเหรอคะ"

"อืมม… จริงของแกแฮะ"

เพื่อนๆ แต่ละคนของลูกผม แต่งตัวกันสุดฤทธิ์สุดเดช กระโปรงทั้งสั้น ทั้งผ่า ไม่รู้จะโชว์อะไรกันนักหนาสิเด็กสมัยนี้

"มีนว่าคุณพ่อน่าจะชอบนะคะ มีนยังแอบเห็นคุณพ่อมองขามีนบ่อยๆ ด้วย ฮิฮิ... "

ตาย จริง !! ทำไมผมทำอะไรรุ่มร่ามให้ลูกจับได้ก็ไม่รู้ คิดพลางก็นึกละอายใจ น้องมีนอายุจะเต็ม 20 อีกสองเดือนข้างหน้า กำลังเปลี่ยนจากวัยรุ่นเข้าสู่วัยสาวเต็มตัว 

ด้วยความสูง 167 ซม. น้ำหนัก 47 กก. ของแก ทำให้แกยิ่งดูเป็นสาวมากขึ้น และจากความที่ได้เชื้อดีมาจากแม่ของแก 33 24 35 ทำให้รูปร่างสรีระของน้องมีน ยิ่งน่ามองเข้าไปใหญ่ จนทำให้ในบางครั้งผมมองแกแล้วก็อดคิดถึงแม่ของแกไม่ได้ เฮ้อออ… ทำไมฟ้าช่างแกล้งให้ผมต้องตกอยู่ในสภาพนี้ก็ไม่รู้

"วันนี้มีนขอขับเองนะคะ แล้วขากลับคุณพ่อค่อยขับ"
ว่าแล้วแกก็กระโจนสู่เบาะคนขับทำหน้าที่สารถีให้ผมทันที ปล่อยให้ผมเดินไปขึ้นอีกด้านของรถเป็นผู้โดยสาร

"รถติดจังเลยนะคะ" น้องมีนว่า

"ก็อย่างนี้ล่ะลูก หนูมีเรียนสายไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องรีบหรอก ขับไปเรื่อยๆ"

ตลอด เวลาที่โดยสารอยู่ในรถด้วยกัน ผมอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองท่อนขาลูกสาวคนสวยของผม ด้วยความที่กระโปรงทั้งสั้นและผ่าข้างตัวนั้น ทำให้ผมได้เห็นความขาวของต้นขา ประกอบกับจังหวะการขับรถที่ต้องขยับขาเหยียบคันเร่งและเบรคเกือบตลอด ขาทั้งสองจึงหุบเข้าหุบออก ทำให้ผมอดคิดอะไรต่อมิอะไรไม่ได้ แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

"อุ๊ย... เหรียญตก คุณพ่อก้มหยิบให้หน่อยสิคะ"
ลูก สาวร้องบอกผมในขณะจะหยิบสตางค์จ่ายค่ำทางด่วน เหรียญสิบบาทที่หล่นลงบนพื้นระหว่างขาทั้งสองข้างของลูกผม ทำให้ผมต้องรีบก้มลงเก็บ ไม่อย่างนั้นเราอาจโดนพนักงานที่ด่านด่าเอาได้ เพราะเราไม่มีเศษสตางค์เลย นอกจากแบงค์ใบละห้าร้อย รูปขาที่ขาวได้สัดส่วน ณ ตอนนี้อยู่ห่างจากหน้าผมไม่กี่เซ็นต์ 

จนรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมจางๆ ของสบู่ที่แกใช้ประจำ ช่างทำให้ปั่นป่วนในอารมณ์ได้ยิ่งนัก

"เย็นนี้มีนเลิกห้าโมงนะคะคุณพ่อ จะรอคุณพ่ออยู่ที่เดิมค่ะ"

ลูก สาวผมพูดขึ้นแล้วเดินจากขึ้นตึกเรียนไป เมื่อรถถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ผมได้แต่รับคำสั้นๆ แล้วก็จากออกมาเพื่อไปปฏิบัติภาระกิจของผม ปีนี้น้องมีนเรียนอยู่ ปี 2 ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนึง ด้วยความที่แกอยากเป็นนักข่าวจึงเลือกเรียนสาขาสื่อสารมวลชน ความที่เป็นเด็กตั้งใจเรียนและมีความมุ่งมั่นสูง ทำให้ผลการเรียนที่ได้มา ไม่เคยทำให้ผมต้องมานั่งพูดบ่นใดๆ เลย 

ผมรู้สึกภูมิใจมากที่มีลูกแบบนี้ นอกจากนั้นก็ยังไม่ดื้อเป็นเด็กเชื่อฟัง สั่งสอนอะไร ไม่เคยต้องพูดซ้ำ เรื่องเที่ยวเตร่ก็มีบ้างตามประสาวัยของแก แต่ถ้าเที่ยวกลางคืน มักจะมีผมไปด้วยอยู่เสมอ สำหรับเรื่องผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ให้ระคายความรู้สึก ทั้งๆ ที่แกก็จะมีผู้ชายเข้ามาจีบ มาติดพันอยู่เสมอ 

แต่แกมักบอกผมเสมอว่ายังไม่พร้อม จนกว่าจะเรียนจบ ผมได้แต่นั่งยิ้มในใจ แกเคยบอกว่า ผู้ชายสมัยนี้ชอบจีบแล้วฟัน ซึ่งผมก็เห็นด้วยแกบอกว่าไม่อยากกลายเป็นเหยื่อ แน่นอน ลูกผมสวยอย่างนี้ มักจะตกเป็นเป้าสายตาอยู่แล้ว

"สวัสดีค่าคุณพ่อ"

ผมละจากความคิด คำนึงเมื่อมีเสียงร้องทัก เสียงเพื่อนๆ ลูกสาวผมนั่นเอง "เมย์" "จูน" "ปิ๊ก" เป็นสามสาวที่สนิทสนมกับลูกมีนของผม ถึงขนาดเคยไปนอนค้างที่บ้านบ่อยๆเวลาพวกแกต้องการติวหนังสือด้วยกัน

"หวัดดีลูก… หวัดดีลูก..."

ผมรับไหว้

"คุณพ่อมานานหรือยังคะ"

มีนถาม

"ซักพักแล้วล่ะ พ่อกลัวรถติด เลยรีบมาแต่เนิ่นๆ... เค้าชอบบ่นพ่อน่ะเวลาพ่อมารับช้า"

ผมพูดไปพร้อมกับหันไปทางเพื่อนทั้งสามของลูกสาว

"เมื่อไหร่จะไปนอนที่บ้านอีกล่ะ"

ผมถามเพื่อนๆ ของลูก

"พ่อจะได้ทำอาหารอร่อยๆ ให้ชิมกัน"

"ไปแน่นอนค่ะคุณพ่อ แต่เดี๋ยวขอนัดวันกันอีกครั้งนะคะ รับรองคุณพ่อได้เลี้ยงพวกหนูแน่ๆ"

ยัยเมย์คนที่เปรียวที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น

"เอาๆ จะไปเมื่อไหร่บอกมีนไว้ล่วงหน้าละกันนะ พ่อจะได้มีเวลาเตรียมตัวไปจ่ายตลาด"

ผมตอบ ยัยเมย์กระชากมีนเข้าไปพูดอะไรกันซักอย่าง ซึ่งดังพอให้ผมแอบได้ยินว่า

"คุณพ่อยังเท่ห์อยู่เลยเนอะ ฮิฮิ"

แล้วก็ทำตาแพรวพราว

"นี่พ่อชั้นนะยะ... นี่แน่ะ…"

มีนบอกเพื่อน พร้อมกับหยิกไปที่ต้นแขน แล้วทุกคนก็หัวเราะต่อกระซิกกันยกใหญ่ หลังจากนั้นเราพ่อลูกก็ลาออกมาจากวง

"เห็นมั๊ยคะพ่อ ยัยสามคนนั่นยังใส่ได้เลย แล้วทำไมมีนจะใส่ไม่ได้ ขามีนสวยกว่าตั้งแยะ"

ลูกสาวผมพูดขณะนั่งไขว่ห้างอยู่ตอนหน้าข้างคนขับ อืม…จริงด้วย ผมเพิ่งนึกได้แต่ละคนนุ่งกันสั้นเหนือหัวเข่าขึ้นไปเยอะมาก

"แต่พ่อก็ไม่เห็นว่าต้องสั้นขนาดนั้นหนิลูก เวลาจะลุกจะนั่งลำบากแย่เลย" ผมว่า

"มีนอยู่ข้างนอกก็ระวังอยู่แล้วล่ะค่า เว้นแต่เวลาอยู่บ้านเท่านั้นแหละที่ทำตัวสบายหน่อย" เจ้ามีนบอก

"ก็นั่นแหละลูก จะอยู่ที่ไหนก็ต้องระวังทั้งนั้นแหละ ยังไงก็เกรงใจพ่อบ้างสิ"

ผมพูดพลาง นึกถึงเวลาลูกผมนั่งต่อหน้าจนเห็นเข้าไปในช่องกระโปรงไปถึงไหนต่อไหน เนื่องจากความที่กระโปรงมันสั้น

"คุณพ่อแอบดูมีนเหรอคะ"

ลูกสาวทำหน้าทะเล้นแซว

"ก็ ใช่น่ะสิ พ่อเห็นจนแทบจะรู้เลยว่าวันไหนหนูใส่สีอะไร จะลุกจะนั่งอะไรก็ระวังหน่อยละกันนะลูก พ่อไม่ว่าหรอกเรื่องแต่งตัว แต่ต้องพอดีๆ" ผมสอน

"ค่า แล้วมีนจะระวังค่าาาา…"

ลูกสาวผมรับคำ แต่ก็ไม่วายพูดอะไรงึมงัมอีกหน่อย จับใจความไม่ได้

"ไปเตรียมตัวอาบน้ำไปลูกไป"

ผมพูดขณะนั่งสบายๆ พักเมื่อย ดูทีวีอยู่กับลูกสาว

"ค่ะ อีกแป๊บ"

แกพูดตอบผมในขณะนอนเอกเขกอยู่บนโซฟาหน้าทีวี

"งั้นเดี๋ยวพ่อไปอาบก่อนก็แล้วกัน"

ผมตอบ แล้วก็ลุกเดินเข้าห้องนอน เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ

"อ่ะ... ถึงคิว.... "

ผมกำลังจะเรียกแกไปอาบน้ำ แต่พอเดินออกมา เห็นลูกสาวกำลังนอนในท่ากึ่งคว่ำฟุบหลับอยู่หน้าทีวีบนโซฟา รูปร่างที่สมส่วน รับกับทรงเสื้อนักศึกษาเข้ารูปที่แกสวมอยู่

ผมยืนมอง ด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู พรางคิดในใจ "ลูกผมเป็นสาวแล้ว" แต่แล้วความคิดก็สะดุดเมื่อสายตามองลงมาถึงต้นขาของแก ความสั่นของกระโปรงที่รั้งขึ้นไปพอสมควรเวลานอน ทำให้เนื้อผ้าของกระโปรงปิดต้นขาอยู่ไม่มาก รวมถึงก้นที่เบียดกันแน่นของแก นอกจากนั้นคือช่วงขาสวยของแก และความว่างเปล่าเท่านั้นที่ปิดมันอยู่ 

ผมเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ที่พยายามซ่อนไว้ภายในจิตใต้สำนึกของความเป็นพ่อไม่พยายามคิดอะไรให้นอก เหนือจากนั้น ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ผมและลูกสนิทกัน มีความใกล้ชิดกันมาก ไม่มีอะไรปิดบังต่อกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง มีหลายครั้งที่ผมอยากจะเรียกมันว่าเฉียด ด้วยความที่เราอาศัยอยู่ในคอนโดห้องเล็กๆ มีห้องนอนแค่ห้องเดียว เราจึงต้องนอนอยู่ในห้องเดียวกัน บางครั้งก็อยู่บนเตียงเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลยไปจากนี้ เราสองคนพ่อลูกนอนกอดกันคิดถึงแม่ของเค้าอยู่บ่อยๆ

"เสร็จแล้วเหรอคะ"

ผมหลุดจากภวังค์กับเสียงลูกสาวที่เพิ่งตื่น

"จ๊ะ… ไปอาบน้ำสิไป"

ผม สำทับ แล้วก็ต้องใจหายวาบเมื่อลูกสาวผมพลิกตัว ทำให้ขาข้างนึงยกสูงกว่าปกติ จนผมเห็นได้เลยว่า วันนี้ลูกสาวของผม นุ่งกางเกงในสีดำ ปกติแกจะนุ่งอยู่สองสีคือดำกับขาวเท่านั้น แน่นอน ผมทราบดี เพราะเสื้อผ้าของแก ผมเป็นคนซักและรีดให้เสมอ ผมใส่กางเกงแพรนอน และคืนนี้ก็เช่นกัน ขณะกำลังง่วนกับการเปลี่ยนเสื้อผ้า สายตาของผมก็อดที่จะเหลือบไปมองตะกร้าใส่ผ้าใช้แล้วไม่ได้ 

สิ่งที่เห็นคือกางเกงในสีดำของลูกผมด้วยอำนาจอะไรบางอย่างทำให้ผมต้องเดินไปตรงนั้น แล้วหยิบกางเกงในตัวนั้นขึ้นมาดูผมมองกางเกงในตัวสวยตัวนี้อย่างพินิจ สิ่งที่เห็นคือบริเวณเป้าจะมีคราบของน้ำอะไรบางอย่างที่แห้งเป็นดวง กลิ่นหอมประหลาดที่ลอยขึ้นมาเตะจมูก จนผมอดที่จะหยิบขึ้นมาสูดดมไม่ได้ นี่ผมกำลังทำอะไรออกไป ผมกำลังดมกางเกงในลูกสาวตัวเองเหรอ


ผมรีบสลัดความคิดไม่ดีนั้นออกทันที แต่มันช้าเกินกว่าที่ท่อนลำกลางลำตัวผมซะแล้วตอนนี้มันกำลังค่อยๆ แข็งตัว หลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ก็มานั่งเปิดทีวีดู เผอิญนึกขึ้นได้ว่าวันก่อนซื้อหนังมาหลายแผ่น เลยเลือกมาเรื่องนึกและยัดเข้าเครื่องนั่งดู ลูกสาวผมอาบน้ำเสร็จเมื่อหนังผ่านไปครึ่งเรื่องแล้ว ผมกำลังอยู่ในอาการที่ ถ้าเอนตัวนอนเป็นหลับแน่ๆ

"เรื่องอะไรคะคุณพ่อ"

ลูกสาวผมถามพร้อมกับเดินมานั่งที่ประจำของแก ก็โซฟาตัวเดิมนั่นแหละ แล้วก็เอนตัวพิงหมอน

"เรื่องอะไรซักอย่างน่ะแหละ ลองหยิบปกมาดูสิ"
ผมว่า

"อ๋อ… เรื่องนี้นี่เอง มีนกำลังอยากดูเลย เห็นเพื่อนๆ บอกว่าหนังเรื่องนี้สนุกค่ะ"

มีน พูดพลางดูหนังพลาง ขณะนั้นในจอทีวีกำลังเป็นฉากเลิฟซีนพอดี ลูกสาวผมนอนมองจอทีวีเขม็ง แต่ผมสิ รู้สึกปั่นป่วนบอกไม่ถูก ท่วงท่าลีลาต่างๆ ในหนัง ล้วนเป็นสิ่งที่ผมเคยทำมาแล้วทั้งนั้น จังหวะการขยับท่อนเอวของพระเอกในหนัง 

ผมอดคิดถึงตัวเองไม่ได้จริงๆ นี่ถ้าแม่น้องมีนยังอยู่ ผมคงไม่อึดอัดอย่างนี้แน่ๆ น้องมีนนอนหนีบขาแน่น ด้วย common sense ของผมจากสิ่งที่เห็น ผมพอจะบอกได้เลยว่าลูกผมกำลังรู้สึกอย่างไร แน่นอน ย่อมไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ ผมรีบสลัดความคิดและเดินหนีจากตรงนั้นทันที

"พ่อไปนอนก่อนนะ"

ผมบอก ลูกสาวผมพูดไล่หลัง

"นอนบนเตียงนะคะอย่านอนพื้น เดี๋ยวคุณพ่อปวดหลัง"

โดย ปกติผมจะเลือกที่จะปูผ้านอนบนพื้นมากกว่า แล้วให้ลูกนอนบนเตียง แต่คืนนี้สงสัยจะต้องยอมนอนบนเตียงแล้วล่ะ ผมยังปวดหลังไม่หายเท่าไหร่ ผมขึ้นเตียง เปิดไฟหัวเตียงให้แค่พออ่านหนังสือได้ เอาหมอนข้างมากั้นกลาง แล้วก็นอนอ่านหนังสือไปพลางๆ เพื่อช่วยให้หลับเร็วขึ้น จากนั้นหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ มารู้สึกตัวอีกครั้ง ผมกำลังนอนกอดลูกสาวหมอนข้างหายไปแล้ว 

เหลือแต่ลูกสาวที่นอนข้างๆ หันหลังให้ผมนอนกอด แต่สิ่งผิดปกติบางอย่างที่รู้สึกได้เลยคือ ท่อนสะโพกด้านหลังของลูกสาวผมกำลังเบียดเข้ากับช่วงบริเวณหน้าขาของผม แน่นอนหมายถึงตรงนั้น พอรู้สึกได้อย่างนั้น ความกำยำของผมก็แข็งตัวทันที 

ผมพยายามข่มความรู้สึกตัวเองโดยใช้ความอดทนมหาศาล ลูกผมจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าผมกำลังรู้สึกยังไง และเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง พอของผมแข็งตัว แกกลับยิ่งเบียดสะโพกเข้าหา คืนนี้ผมก็ไม่ได้ใส่กางเกงในนอนเหมือนทุกๆ คืน ผมรู้สึกได้ในตอนนั้นว่า ความยาวหกนิ้วของผมกำลังแทรกผ่านร่องก้นของแก ถ้าไม่โกหกตัวเอง ผมรู้สึกเหมือนกับแกพยายามขมิบร่องก้นหนีบขาเข้าหากัน เพื่อไม่ให้ผมนำลำลึงค์ของผมออกมาได้ ผมได้แต่พยายามข่มใจ ไม่อยากบอกแก ไม่อยากปลุกให้แกตื่น ก็เลยต้องปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้น 

ลูกมีนของผมเริ่มขยับตัวโดยเฉพาะช่วงสะโพกมากขึ้นจนผมรู้สึกได้ พลางคิดในใจ 

"ลูกผมกำลังแกล้งผมหรือนี่ หรือว่า.... เค้ากำลังต้องการ" 

ยิ่งคิดถึงตรงนี้ผมยิ่งรู้สึกเตลิด ผมจะทนอยู่ในภาวะอย่างนี้ได้นานแค่ไหนกัน จนกระทั่ง.... เส้นความอดทนของผมขาดลง ผมใช้มือที่กอดแกอยู่ ค่อยๆ ขยับมาลูบจับนมขนาด 33 นิ้ว สิ่งที่ผมลูบผ่านไปมาคือหัวนมที่แข็งชูชันเป็นไต ปทุมถันสองข้างตอนนี้แทบไม่ต่างกัน ผมลูบจับอย่างย่ามใจ ใช้ร่องนิ้วกลางและนิ้วนางบี้หัวนมของแกจนได้ยินเสียงแกครางอืมๆ ในลำคอ 

ไม่เพียงเท่านั้นผมละมือจากการเคล้าคลึงบัวตูมสองข้าง ค่อยๆ ช้าๆ ลงมาดึงชายกระโปรงชุดนอนของแกขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้นจนพ้นสะโพกอย่างแผ่วบน จนผมพบว่าแกไม่ได้นุ่งกางเกงในนอนเหมือนกัน ผมเริ่มลูบไล้ท่อนขา สะโพก ก้น ค่อยๆ บดมือลงกับเนื้อก้นเบียดแน่นข้างนึงบดอุ้งมือลงไป ยามนี้แกยิ่งครางถี่กระชั้นมากขึ้น 

ผมบีบก้นข้างนึงเบาๆ โดยใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ แทรกผ่านร่องก้นลงไปเพื่อกระตุ้นบริเวณแก้มก้น และแคมนอกของแกให้ผลุบเข้าออก ถึงตรงนี้ผมสัมผัสความฉ่ำชื้นของแกด้วยปลายนิ้วทั้งสี่นั้น ผมตื่นเต้นจนอดที่จะเอาปลายนิ้วที่เต็มไปด้วยน้ำรักของแกใส่ปากไม่ได้ มันชั่งหอมหวานอะไรเช่นนี้ ลูกสาวคนสวยของผมยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว แต่สะโพกของแกสิ ส่ายร่อนเข้าหาผมตลอด 

"เป็นยังไงก็เป็นกัน" ใจผมคิด ผมสอดมือลงมาปดปมกางเกงแพรแล้วรูดมันลง ความกำยำของผมดีดผึงทันทีที่ได้รับอิสระ ผมแอ่นมันเข้าหาสะโพกที่ส่ายร่อนของลูกสาวผม เพียงขยับตัวนิดเดียวมันก็สอดเข้าไปอยู่ในตำแหน่งเดิมที่เคยอยู่เมื่อซักครู่ความฉ่ำแฉะที่ชะโลมท่อนเนื้อของผมตอนนี้ ช่างสร้างความรัญจวนใจให้ผมยิ่งนัก 

ถึงตอนนี้มันกำลังจรดจ่ออยู่กับซอกหลืบบริสุทธิ์ที่ผมให้กำเนิดมา ผมใช้มืออีกครั้งสอดเข้าไปใต้ชุดนอน เพื่อควานหัวปทุมถันคู่งาม เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปีที่ผมได้สัมผัสกับนม นมคู่สวยที่ผมเฝ้าทนุถนอมมาตลอดทั้งชีวิต 

ผมห่างหายมานานกับการมีเซ๊กส์ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่สัญชาตญานของผมจะบอกให้ผมทำอะไรต่อไป ผมเริ่มขยับตัวพลิกให้ลูกสาวนอนหงาย และเมื่อแกนอนหงาย มือสองข้างของแกรั้งคอผมลงจูบกับปากอวบอิ่มของแกทันที เราแลกลิ้นจูบกันอย่างดูดดื่ม ลิ้นที่ใหญ่และสากของผมคับปากแกจนรู้สึกได้ ตอนนี้มันกำลังชอนไชไปทั่วอุ้งปากของลูกผม 

ลูกผมดูเงอะงะในการจูบไปบ้าง อาจเป็นเพราะยังไม่เคยโดนใครจูบ แต่ก็สอดรับกับลิ้นของผมเป็นอย่างดี แกช่างเหมือนแม่ของแกเมื่อตอนได้กับผมครั้งแรกจริงๆ มือข้างนึงของผมยังทำงานตามหน้าที่ของมันบีบบี้หัวนมสองข้าง สลับกับเค้นคลึงถันคู่สวย ช่างใหญ่สมส่วนให้ระรานใจเป็นยิ่งนัก

ผมละริมฝีปากจากปากของแก เลื้อยลงผ่านใบหู ลำคอ หน้าอก จนถึงถันคู่งาม ผมฟอนเฟ้นอย่างเมามันส์ในอารมณ์ ริมฝีปากขบงับไปทั่วบริเวณ และแน่นอนหัวนมคือเป้าหมายต่อไป แกสะดุ้งสุดตัวเมื่อหัวนมข้างนึงหลุดเข้ามาอยู่ในปากผม 

ผมดูดเบาๆสลับกับเลียไปมาเพื่อกระตุ้นให้แกถึงจุดกระสันต์ ถึงตรงนี้ไม่มีช่องว่างตรงไหนบนนมคู่นี้ที่จะรอดพ้นจากปลายลิ้นที่ผมโลมเลียได้ ผมเลื้อยลากปลายลิ้นต่ำลงมาจากพวงถันเรื่อยลงมาถึงหน้าท้อง สะดือ ทุกๆ แห่งที่ปลายลิ้นผมลากผ่าน ไม่มีตรงไหนที่จะรอดพ้นจากการขบงับริมฝีปากและดูดเม้ม 

ลูกสาวคนสวยของผมเกร็งตัวเป็นระยะๆ ด้วยความเสียวซ่าน และเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางที่ต่างฝ่ายต่างถวิลหา ผมใช้ลีลาที่มีอยู่พอตัว
ไม่ เร่งร้อนในการตะโบมปลายลิ้นเข้าใส่ร่องหลืบของแก ผมไล้ลิ้นผ่านไปมา เรื่อยลงไปถึงต้นขาด้านใน ดูดเม้มจนแกส่ายร่อนเพื่อให้ผมใช้ปากกับแก 

ผมใช้มือสองข้างช้อนก้นของแกให้ลอยขึ้นในจังหวะร่อนส่าย แล้วใช้ปลายจมูกฝังเข้าไปในร่องหลืบนั้น สูดดมให้หายกำซาบซ่าน น้ำรักของแกช่างเยอะอะไรเช่นนี้ ผมกรีดปลายลิ้นผ่านร่องก้นขึ้นและลง ใช้ปลายจมูกฝังเข้าสู่ร่องหลืบ เพื่อให้สันจมูกอยู่ตรงกับเม็ดติ่งของแก แล้วจึงเริ่มบรรเลงเพลงลิ้น แกจิกหัวผมทันที กดหน้าผมให้แนบเข้าไปหาของสงวนแสนรักพร้อมๆ กับยกก้นให้ลอยขึ้นอีก ประหนึ่งจะไม่ยอมให้ผมละใบหน้าและปลายลิ้นออกมาจนผมรู้สึกหายใจไม่ได้ 

ผมเริ่มสอดใส่ปลายลิ้นเข้าไป ดูดเลียน้ำทุกหยดหยาดที่ไหลเยิ้มเนืองนอง แคมในสองข้างโดนผมเม้มดูดจนแกส่งเสียงร้องครางถี่ เม็ดติ่งแตดโดนเลียเม้มจนขาแกสั่นพร้อมกับเสียงครางกระเส่า ผมสอดปลายลิ้นอีกครั้งเข้าไป ควานไปทั่วทุกซอกหลืบ แยงเข้าแยงออกจนแกเกร็งหน้าท้องเสียววาบเป็นระยะๆ 

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบได้ รู้แต่เพียงจากประสบการณ์ของผมว่าตอนนี้ เขื่อนของน้องมีนลูกสาวคนสวยของผมกำลังจะแตก แกเริ่มจิกผมของผมแรงขึ้น กดหัวของผมหนักขึ้น

ผมก็ได้แต่เพียงใช้ปลายลิ้นขยี้เม็ดติ่งของแกสลับกับการเม้มเลีย จนในที่สุดแกกรีดร้องออกมาอย่างสะใจ

"ว๊ายยยยย...."

พร้อมๆ กับการขมิบขับน้ำรักที่แสนจะหอมหวานโอชะ เข้าสู่ปากผมอย่างสุดจะหาคำบรรยายได้ การกระตุกของแกเป็นระยะ ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าแกเสร็จสมอารมณ์หมายไปแล้วน้ำที่ไหลนองออกมา ไม่อาจรอดพ้นจากลิ้นและปากของผมที่โลมเลียไปได้แม้แต่หยดเดียวครับลูกผมพบสิ่งที่แกปราถนาแล้ว เราพ่อลูกไม่มีคำพูดใดๆ เล็ดลอดออกมาเลย แกนอนกอดผมเหมือนเคย แล้วก็หลับไปอย่างมีความสุข เราต่างคนต่างนอนจนกระทั่งรุ่งเช้า เพื่อรับกับวันใหม่ของอีกวันที่จะมาถึง

ผมสะดุ้งสุดตัวขณะนั่งอ่านหนังสือคอยน้องมีนใต้ต้นไม้แห่งนึงในมหาวิทยาลัยพร้อมกับเงยหน้ามอง ไม่ใช่ใคร ลูกสาวผมเอง

"สวัสดีค่าคุณพ่อ"

เสียงทักทายระงมของสาวทั้งสี่

"พ่อเกือบหัวใจวายแน่ะลูก คราวหลังมาให้สุ้มให้เสียงบ้างสิ... เล่นเอามือจี้เอวพ่อเป็นเด็กๆ ไปได้"
ผมตัดพ้อเล็กน้อย

"ก็มีนไม่เคยเห็นคุณพ่อเหม่อแบบนี้นี่คะ ...นึกว่ารู้ตัวแล้วซะอีก"

ลูก สาวผมว่า พร้อมทำหน้าทะเล้น ครับผมกำลังเหม่อ อดที่จะคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าตัวเองระแวงเกินไปหรือเปล่า ผมกำลังรู้สึกว่าสามสาวเพื่อนของน้องมีนมองผมด้วยสายตาแปลกอมยิ้มน้อยๆ เหมือนกับมีอะไรอยู่ในใจ 

"ไม่น่ะ น้องมีนคงไม่เล่าให้เพื่อนฟังหรอก" ผมคิด

"วันนี้รีบไปไหนกันหรือเปล่าลูก ถ้าไม่รีบกลับบ้าน ไปวันนี้พ่อจะพาไปเลี้ยงข้าว"

ผมว่า เสียงเอะอะกรี๊กร๊าดดีใจของสาวดังระงม และ สุกี้เป็นคำตอบที่ทุกคนต้องการ

"ดีค่ะดี"

เสียงสอดรับของสาวๆ

"วันนี้มีเจ้ามือแล้ว"

เสียงปิ๊กคนที่สวยน้อยที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น

"งั้นไป ขึ้นรถกัน เอาสาขาใกล้ๆ นี่แล้วกันนะ"

ผม ชวน ระหว่างนั่งกินสุกี้ เสียงฮา เสียงแซวดังเป็นระยะๆ แน่นอน ผมค่อนข้างคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะจะว่าไปแล้ว ทั้งสามสาวก็สนิทสนมกับผมพอสมควร ไปมาหาสู่กับน้องมีนบ่อยๆ มีบางครั้งที่แซวผมจนหน้าม้าน แต่ผมไม่กล้าแซวกลับ มันจะแลดูเป็นหมาหยอกไก่เกินไป

"คุณพ่อไม่คิดจะหาแม่ใหม่ให้ยัยมีนบ้างเหรอคะ"
จูนคนที่พูดน้อยที่สุดเอ่ยถาม

"ไม่หรอกลูก อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว พ่อไม่อยากมีปัญหา อีกอย่างเจ้านี่ไม่ยอมแน่ๆ"

ผมพูดพร้อมๆ กับเอามือจับหัวลูกสาวผมเขย่าเบาๆ
"เธอถามเหมือนอยากจะเป็นแม่สื่อเลยนะยะยัยจูน หรืออยากจะมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายของชั้นซะเอง ฮึ…"

น้องมีนตอบโต้

"ได้ก็ดีสิยะ คุณพ่อยังดูไม่แก่เลย ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีแบบนี้ ชั้นหลงตายเลย" จูนโต้บ้าง

"ถ้างั้นเราต้องชิงกันหน่อยแล้วล่ะยัยจูน เมย์พูดบ้าง"
"ชั้นด้วย" ปิ๊กผสมโรงอีกคน

"นี่เลย ถ้างั้นพวกเธอต้องเจอลูกเลี้ยงอย่างชั้น"

ว่า แล้วก็ทำหน้ายักษ์ล้อเลียนกับเพื่อนๆ พร้อมกับแสดงท่าทาง ส่วนผม ได้แต่นั่งยิ้มแหยๆ สลับกับหัวเราะ ไม่กล้าแสดงความเห็น ทั้งสี่สาวเป็นเพื่อนสนิทกันมาก ไปไหนมาไหน กิน เล่น เที่ยว ด้วยกันมาตลอด คุ้นเคยกับผมมาตั้งเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัยใหม่ๆ 

โดยเฉพาะ จูนเป็นเพื่อนกับน้องมีนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนสตรีแห่งหนึ่งทำไห้เป็นคนที่รู้เรื่องราวต่างๆ ในครอบครัวของเรามากที่สุด และนับครั้งไม่ถ้วนที่มานอนที่บ้าน เมื่อครั้งที่น้องมีนมีประจำเดือนครั้งแรก 

จูนเป็นเพื่อนของน้องมีนที่มานั่งฟังผมอธิบายความเป็นมา และเป็นไปตามธรรมชาติของร่างกายผู้หญิงในวัยสาว จนจูนทึ่งในความรอบรู้ที่ผมพูดให้เค้าสองคนฟัง จูนไม่ใช่เด็กช่างพูดเท่าไหร่ มีสัมมาคารวะซึ่งตรงนี้ถือเป็นเสน่ห์ของตัวเค้าเอง แถมรูปร่างสรีระก็แทบไม่ต่างจากน้องมีน จนสามารถใส่เสื้อผ้าร่วมกันได้ 

ปิ๊กคนที่สวยน้อยที่สุดในบรรดาสี่สาว เป็นเด็กมาจากจังหวัดแห่งนึงในภาคใต้ จะเรียกว่าสวยน้อยที่สุดก็คงไม่ยุติธรรมนัก แต่จากความที่ผิวของปิ๊กค่อนข้างคล้ำกว่าคนอื่น เลยทำให้ดูโดดเด่นน้อยที่สุด แต่ก็มีหน้าตาที่คมขำ และรูปร่างสมส่วนที่ทำให้ปิ๊กดูสวยไปอีกแบบ เท่าที่ผมเคยได้ยินน้องมีนเล่าให้ฟัง ปิ๊กเคยมีแฟนอายุมากกว่าสมัยเรียนมัธยม และน่าจะเคยมีเพศสัมพันธ์มาตั้งแต่อายุยังน้อย รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ผมเพียงแต่คาดเดา แต่ไม่เคยถามลูกสาวผมหรอก 

ส่วนคนสุดท้าย เมย์ก๋ากั่นที่สุด สูงที่สุด สวยที่สุด ดูเด่นที่สุด และอีกหลายๆ ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นจากเด็กคนนี้ เมย์เป็นลูกสาวคนเล็กของพ่อเลี้ยงเมืองเหนือคนนึง ด้วยความที่มีฐานะทางครอบครัวถึงกับซื้อคอนโดให้หนึ่งห้องสำหรับให้ลูกสาวคน นี้เอาไว้เป็นที่พักระหว่างเรียนหนังสือใน กทม.เท่าที่ผมรู้จากน้องมีน เมย์มีแฟนมาแล้วหลายคน เพียงชั่วขวบปี เมย์เปลี่ยนแฟนมาแล้วถึง 6 คน จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า เมย์น่าจะเคยเสียตัวมาแล้วหลายครั้ง ดูท่าทางเธอจะรู้เรื่องอะไรเยอะมากสังเกตจากการพูดจา ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ทั้งความคิดและอื่นๆ 

ผมเข้าใจว่าที่น้องมีนและเพื่อนอีกสองคนนุ่งกระโปรงสั้นๆ รัดๆ และเสื้อ ตัวเล็กๆ รัดๆ อย่างนี้ น่าจะมาจากอิทธิพลของเมย์นี่แหละ 

วันนี้ผมรู้สึกแปลกๆ รู้สึกระแวงยังไงก็ไม่รู้ ผมรู้สึกเหมือน ณ ตอนนี้ คนทั้งร้านกำลังจ้องมาที่ผม โดยเฉพาะพวกผู้ชาย ไม่สิ !! จะมีใครรู้ว่าเมื่อคืนผมทำอะไรมาได้ยังไง ในเมื่อทั้งโลกใบนี้ผมกับน้องมีนรู้กันแค่สองคน 

ผมลุกไปเข้าห้องน้ำซักครู่ และเมื่อเดินกลับมา ผมก็ได้คำตอบว่า ทำไมผู้คนถึงได้มองมาทางโต๊ะของผม ...เพราะต้นขาของเมย์ที่ขาวเหมือนหยวกกล้วยในตอนนี้ กำลังโชว์ท้าทายต่อสายตาของบรรดาผู้ชายในร้าน ท่วงท่าการนั่งไขว่ห้างที่น่ามองทำให้อดคิดกันไปถึงไหนต่อไหน ไม่เว้นแม้แต่ผมช่างดูน่าลูบไล้เสียจริงๆ ไหนจะหน้าอกที่อัดแน่นขนาดไม่น้อยกว่า 34 นิ้ว ภายใต้เสื้อนักศึกษาตัวเล็กตัวนั้นทำให้ความคิดผมเตลิดไปไกลถึงลูกสาวคนสวย ของผมที่นั่งอยู่ข้างๆ เมย์

"คนทั้งร้านเค้ามองขาหนูอยู่นะลูก"

ผมกระซิบบอกเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ

"อุ๊ย... เหรอคะ ตายจริง เมย์ก็นั่งเพลินไปหน่อย"

เม ย์พูดพร้อมๆ กับขยับขาและท่านั่ง แต่ผมเชื่อว่า ถึงจะขยับยังไง ขาขาวสวยคู่นั้นก็ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาไปได้ ก็กระโปรงที่สั้นซะขนาดนั้น 

"อืมจริงด้วย วันนี้สี่สาวนุ่งกระโปรงสั้นกันทุกคนนี่ ตายละแบบนี้ลูกสาวของผมไม่โดนจ้องไปแล้วเหรอ"

ผมคิดแต่จะทำไงได้ เรานั่งกันอยู่ตั้งนานแล้วนี่ ภายหลังอาหารมื้อค่ำ และส่งสามสามขึ้นรถกลับบ้านกันแล้ว

"คุณพ่อขา เมย์กับมีนใครขาสวยกว่ากันคะ"

น้องมีนเอ่ยปากถามขณะนั่งอยู่ในรถผมนิ่งคิด

"ของมีนสิลูก ของลูกพ่อน่ะสวยกว่าใครๆ อยู่แล้วล่ะ"
ผมตอบเขินๆ

"แต่เมย์ขาวกว่าลูกนิดหน่อยเท่านั้นเอง"

"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ"

ลูก ผมตอบ พร้อมกับยื่นจมูกมาหอมแก้มผมเหมือนปกติทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ เป็นการหอมแก้มที่ผมรู้สึกได้ว่ามันนานมากๆ ปลายจมูกที่ดูเหมือนจะลากไล้ไปตามแก้มของผมทำให้ผมรู้สึกแปลกจนขนลุก และแน่นอนบางอย่างของร่างกายผมกำลังขยับตัว 

เรามาถึงที่พักสามทุ่มนิดหน่อย หลังจากเก็บวางข้าวของเรียบร้อย ผมคว้าไม้กวาดเพื่อกวาดฝุ่นภายในที่พักตามปกติ น้องมีนเดินไปหย่อนตัวลงบนโซฟาตัวโปรด หยิบรีโมทเปิดทีวีแล้วนั่งพิงอย่างสบายใจ จนเผลอนั่งหลับไปในที่สุด เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ ส่วนใหญ่ผมจะทำเอง มันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ผมขี้เกียจเอ่ยปากใช้ให้ลูกทำ 

ผมเงยหน้าขึ้นมองลูกขณะกำลังถูบ้าน อีกแล้ว!!! ลูกสาวคนสวยของผมวันนี้นุ่งกางเกงในสีขาวบางๆ ที่เพิ่งซื้อมาไม่นาน ความบางของเนื้อผ้า ทำให้ผมอดที่จะมองซ้ำไปซ้ำมาไม่ได้ และถ้าสายตาไม่เพี๊ยน ผมกำลังมองเห็นขนอุยเบาบางภายในกางเกงในตัวนั้น ช่างดูน่าเร้าใจเป็นอย่างยิ่ง

และเป็นอีกครั้งที่แก่นกายผมเริ่มขยับตัว ผมปล่อยให้แกนั่งหลับจนถูบ้านและอาบน้ำเสร็จ

"ไปอาบน้ำไปลูก"

ผมเอ่ยปากเรียก แกขยับตัวลุกแต่โดยดี เดินเข้าไปถอดชุดนักศึกษาที่ใส่มาทั้งวัน กระโจมอกด้วยผ้าขนหนูสีขาวสั้นจู๋ อวดเรียวขาขาวสมส่วน เดินผ่านหน้าผมไปขณะผมกำลังนั่งอ่านเอกสาร เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง แกเดินจากห้องน้ำกลับเข้าห้องไป
กลิ่นสบู่ที่แกใช้ประจำโชยเข้าจมูกผมอย่างจัง ความหอมของสบู่ปลุกความเป็นชายของผมอีกครั้ง เพียงชั่วอึดใจ เสียงร้อง

"อุ๊ย"

ดังลั่น ผมรีบวิ่งเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นแกกำลังนั่งอยู่บนปลายเตียง ยกขาขึ้น มือคลำเท้า

"เจ็บจังเลยค่ะ" แกร้องบอก

"เป็นอะไรเหรอลูก"

ผมถามขณะก้มลงไปดูที่เท้าของแก

"หนูเดินเตะขอบเตียงค่ะ ... อูยยยย…" แกยังร้อง

"ไหนพ่อดูซิ แตกมั๊ย"

"ไม่อ่ะค่ะ แต่มันปวดเหมือนนิ้วจะหักเลย" แกร้องบอก

"เดี๋ยวพ่อไปหยิบยามานวดให้นะ"

ว่า แล้วผมก็เดินออกไปข้างนอกหยิบยามานวด ผมเดินกลับเข้ามาเพื่อนวดเท้าให้แก แต่แล้วผมก็ชะงัก ภาพที่เห็น เป็นภาพของลูกมีนคนสวยของผมกำลังนั่งชันเข่า มือจับข้อเท้า อาจเป็นเพราะความเจ็บปวดทำให้แกลืมว่า ผ้าที่นุ่งอยู่ตอนนี้ มันอ้าซ่าเปิดให้สายตาของพ่อพบกับความอวบอิ่มของพูเนื้อที่ปิดแน่นของแก ขนอุยที่อยู่ใต้กางเกงในเมื่อซักครู่ที่ผมเห็น ณ ตอนนี้ มันกำลังอวดสายตาอยู่ต่อหน้าผม ผมกลืนน้ำลายอย่างเหนียวคอ

"ไหน ตรงไหน พ่อนวดให้"

ผมร้องบอกเพื่อให้แกรู้ตัวว่าผมเข้ามาแล้ว

"ตรงปลายนิ้วก้อยเนี่ยค่ะ"

แก ตอบ แต่ท่านั่งยังเหมือนเดิม ตายจริง นี่ผมต้องเห็นของแกไปตลอดเวลาที่นวดให้เลยหรือ ดูเหมือนแกจะไม่ยี่หระต่อสายตาของผมเท่าไหร่ จนผมต้องเตือนออกไป แต่คำตอบที่ผมได้คือ ...

"ทีเมื่อคืนคุณพ่อเอาหน้ามาซุกของมีน ยังไม่เห็นเป็นไรเลย"

ฟังลูกผมตอบสิ ผมอายแทบแทรกแผ่นดินหนีไปซะตรงนั้น กับคำตอบที่ลูกผมเล่นพูดตรงๆ แบบนี้

"คือพ่อ...."

ผมตอบได้เพียงเท่านี้ ผมนวดเท้าให้แกเสร็จแล้วลุกขึ้น

"ใส่เสื้อผ้าซะ"

แล้วผมก็เดินออกจากห้องไป ซักพักผ่านไป

"คุณพ่อ นอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้มีนต้องไปแต่เช้า" แกบอกผม

"เดี๋ยวพ่อดูอันนี้แป๊บนะ แล้วจะเข้าไป" ผมตอบ

"มาดูในห้องก็ได้ค่ะ มีนเปิดทีวีไว้เหมือนกัน จะได้ประหยัด"

แกพูดอีกครั้ง พร้อมกับเดินมาปิดทีวีของผม ผมจึงต้องลุกขึ้นอย่างเสียมิได้ เดินสำรวจกลอนประตูห้อง ปิดไฟ แล้วก็้เดินตามแกเข้าไปนอน แกพลิกตัวมานอนกอดผม แล้วถามว่า

"คุณพ่อรักมีนมั๊ยคะ"

"รักสิลูก หนูเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อคนเดียว พ่อรักหนูมากที่สุดเลยนะ รู้หรือเปล่า"

ผมตอบพร้อมกับก้มหัวไปหอมที่ศีรษะของแก

"หนูก็รักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ"

แกกอดผมแน่นมากขึ้น นิ้วมือที่เขี่ยบนแผ่นอกผมเล่น ทำเอาผมขนลุกเกรียวไปทั้งตัวแก่นกายเริ่มขยับอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนมันจะแข็งเร็วกว่าปกติ และในขณะที่ผมกำลังเคลิบเคลิ้มกำลังจะหลับ ผมสะดุ้งเล็กน้อยที่ตอนนี้ มือของลูกมีนของผม กำลังลูบไล้แก่นกายของผมเล่น แกคงคิดว่าผมหลับไปแล้วหรืออย่างไรไม่ทราบได้ 

แกลูบมันอย่างถนุถนอมจนของผมแข็งเต็มที่ ไฟจากแสงทีวีดับไปแล้ว เหลือเพียงไฟจากหัวเตียงที่หรี่จนเกือบดับ แต่ก็ยังสว่างมากพอที่ทำให้ผมเห็นว่า แกกำลังก้มหน้าเข้าหาแก่นความเป็นชายของผม ปมกางเกงแพรหลุดไปแล้ว แกรูดเปิดกางเกงแพรด้านหน้าของผม ปล่อยให้แก่นชายของผมอวดอยู่ต่อหน้า แล้วก็ใช้ปลายลิ้นของแกตวัดลงบนหัวถอกของผม จนผมตื่นเต้นกับการกระทำของแกมาก แกตวัดลิ้นอยู่อย่างเงอะงะไม่นาน ริมฝีปากอวบอิ่มก็เริ่มงับหัวถอกของผมเข้าไป วินาทีนั้นโลกทั้งใบแทบจะแตกไปต่อหน้าต่อตาผมทีเดียว

ความเสียวซ่านที่บังเกิด ช่างเป็นอะไรที่หฤหรรษ์ยิ่งนัก แกค่อยๆ กลืนมันเข้าไปอย่างยากลำบาก มีแรงดูดจากในอุ้งปากจนผมเขื่อนแทบแตก ผมเริ่มรู้สึกได้ว่าน้ำคัดหลั่งของผมกำลังเยิ้มที่ปลายหัว แกดูดกินมันเข้าไปอย่างไม่รังเกียจ แกทำสลับไปมาทั้งดูดอม และเล็มเลียหัวถอกของผมอย่างอร่อยรูปาก 

ผมเริ่มขยับมือ เอื้อมมือไปหาสะโพกของแกที่ตอนนี้ลอยเด่นโก้งโค้งระหว่างแกก้มลงไปดูดหัวถอก ของผม พอที่ผมจะล้วงมือเข้าไปใต้ชุดนอน จับต้นขาแกเบาๆ แล้วลูบขึ้นและลง ผมใช้ปลายนิ้วกรีดผ่านร่องหลืบอวบอิ่มคู่นั้น แกไม่ได้นุ่งกางเกงใน! ความฉ่ำเยิ้มที่เป็นสัญลักษณ์ของความพร้อมเพื่อการร่วมเพศมีอยู่เต็มหว่างขา 

แกยังไม่ละปากจากลำลึงค์ของผม แต่ขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับยกขาข้างหนึ่งคร่อมผ่านลำตัวและหน้าผมไป ผมถลกชุดนอนของแกตลบไปเหนือสะโพก และผงกหัวใช้ปลายลิ้นชอนไชซอกหลืบระหว่างพูเนื้อคู่นั้นทันที 

แกสะดุ้งวาบ ขมิบเกร็งเพราะความเสียวเป็นระยะๆ ผมก็ทำหน้าที่ของผมดื่มกินน้ำรักที่ไหลออกมาตลอดเวลา แกขมิบสะดุ้งอย่างแรงอีกครั้งเมื่อผมเม้มปากกับติ่งแตด ดูดเบาๆ แต่หนักแน่น จนแกต้องละริมฝีปากจากของผม แล้วได้แต่รองอูย...ๆ พร้อมกับบดร่องเนื้อเข้ากับปากลิ้นของผม แกถลกถอดชุดนอนออก ร่างอวบอิ่มขาวผ่องปรากฎต่อหน้าผม ส่วนของผม กางเกงแพรหลุดไปพ้นข้อเท้านานแล้ว เหลือแต่เสื้อยืดบางๆ ที่ผมเพิ่งถอดโยนทิ้งไป

ผมจับตัวแกให้นอนหงาย ซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นคู่นั้น ผมฟอนเฟ้นหัวนม เต้านม ซอกนมของแกอย่างเมามันส์ หนักหน่วง แกแอ่นรับการดูดดุนของผมอย่างไม่ย่อท้อ ผมไซร้ซอกคอ ใบหู จูบริมฝีปาก เสียงอือ...ๆ ออ...ๆ ดังแผ่วๆ 

ส่วนท่อนล่างตอนนี้ ผมเบียดแทรกตัวเข้าไปอยู่กลางหว่างขาแก ขาแบะอ้าของแกทำให้หัวถอกของผมเสียดสีไปมากับร่องหว่างขา น้ำคัดหลั่งชะโลมอยู่ทั่วลำท่อนของผม จนเมื่อหัวถอกของผมมันสำรวจพบช่องทางแห่งสวรรค์ มันไม่รอช้าที่จะเบียดแทรกตัวเข้าหาร่องกลีบงาม ลูกมีนของผมสะดุ้งเล็กน้อย ผมรู้ได้ทันทีว่าแกเจ็บ จึงร้องบอกไปว่า

"อย่าเกร็งลูก"

แกจึงปล่อย ตัวตามสบาย ปล่อยให้ท่อนเนื้อของผู้บังเกิดเกล้าแทรกผ่านเข้าไปทีละนิด ทีละนิด จนหัวถอกผ่านไปเข้าไปแล้วถึงคอหยัก เสียงกัดฟันกรอดดังขึ้นเบาๆ ปากผมยังซุกไซร้กับนมคู่งาม ในขณะที่หัวถอกของผมก็ทำงานของมัน ความคับแน่นของร่องบริสุทธิ์ ทำให้ท่อนลึงค์ของผมผ่านเข้าไปยากยิ่ง แต่ผมก็มีลีลามากพอที่จะไม่เร่งร้อนและปล่อยให้มันไหลเข้าไปตามแรงดูดตอดของ ร่องลูกสาวผม 

ผมรู้สึกได้ในตอนนี้ว่ามันผ่านเข้าไปแล้วครึ่งนึง ผมยังคงแรงดันเด้าไว้เท่าเดิม เนื่องจากกลัวลูกสาวผมจะเจ็บจนเข็ดขยาด สะโพกงามของลูกสาวผมเริ่มส่ายร่อน คงต้องการให้หัวถอกของผมผ่านเข้าไปอย่างเร็วที่สุด และเจ็บน้อยที่สุด ผมออกแรงดันอีกนิด และอีกนิด จนหัวเหน่าของเราสองคนประชิดติดกัน 

ถึงตรงนี้ท่อนเนื้อทั้งลำของผมมุดเข้าไปในร่องสวาทของลูกสาวคนสวยมิดด้าม แล้ว ผมห่างหายจากการร่วมเพศมานาน แต่ตอนนี้ความเป็นชายของผมกำลังอยู่ในร่องรูฟิตเปรี๊ยะที่มีทั้งพลังดูดตอด อย่างมหาศาล จนทำให้น้ำผมเกือบแตกในขณะนั้น ผมต้องใช้ความอดทนอย่างมากเพื่อไม่ให้สวรรค์ของเราล่มเสียก่อน 

จนเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมจึงเริ่มขยับ ผมบรรจงถอนลำลึงค์ออกช้าๆ แล้วดันเข้าไปอีกครั้ง ลูกสาวผมแอ่นสะโพกลอยตามเหมือนกลัวว่ามันจะหลุด เอวของผมเริ่มทำหน้าที่ของมัน ผมกดกระเด้าช้าๆ เนิบๆ แต่หนักแน่นประโคมใส่รูฟิตของลูกสาว ลูกสาวของผมครางเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ แต่น้ำเสียงบ่งถึงความระคนในใจ เสียงซี๊ดเหมือนกินของเผ็ด
สลับกับเสียง อูย...ตลอดเวลา 

ส่วนผมตอนนี้ต้องดูดเม็ดที่อยู่ปลายถันของแกสลับกันเพื่อลดความเสียวของตัวเอง แต่ก็อดเป่าปากเป็นช่วงๆ ไม่ได้ เสียงเชาะแชะของน้ำรักของเราพ่อลูกดังไพเราะน่าฟัง ขาคู่สวยของลูกสาวผมเกี่ยวรัดท่อนขาของผมเอาไว้แน่น ในขณะที่บั้นเอวของผมดันเด้าใส่ของแก จากเชื่องช้าหนักแน่นเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นอีกนิด 

ความฟิตแน่นของแกทำให้โลกของผมแทบแตกสลาย ผมเร่งจังหวะขึ้นไปอีก แกเด้งสะโพกตามแรงเด้า ทุกๆ ครั้งที่กระเด้าท่อนเนื้อจนสุด ผมรู้สึกได้เลยว่าปลายหัวถอกของผมจะสัมผัสกับปากมดลูกของแกทุกครั้งจนแกผวา เป็นห้วงๆ

"คุณพ่อขา... มีนไม่ไหวแล้วค่ะ... "

แกร้องบอกกนะเส่าของแกสลับกับลมหายใจถี่กระชั้น

"ปล่อยออกมาเลยลูก…" ผมกระซิบบอก

"คุณพ่อ... เก่งจังเลย... " แกบอก

"ทำให้มีนบ่อยๆ... นะคะ..."

"ได้สิลูก… พ่อจะทำให้หนูทุกวันเลย... " ผมหอบ

"มีน... ไม่ไหวแล้วค่ะ ... ซี๊ดดดดดด ... เร็วอีกนิดค่ะ... เร็วๆ… เลยค่ะ…"

แกคราง ผมเร่งกระเด้าเร็วยิ่งขึ้น จนเสียงเหน่าโหนกของเราพ่อลูกกระทบกันดังผับๆ เร้าใจยิ่ง

"ว๊ายยยยยย.... " แกร้อง

"รอพ่อด้วย... " ผมเร่งกระเด้า

"โอวววว...."

แรง ตอดวาบของแกจากการเสร็จสม บวกกับแรงอัดฉีดน้ำกามของผมยามถึงฝั่ง ทำให้เราสองพ่อลูกเกร็งร่างไปพร้อมๆ กันอย่างแรง น้ำรักจากท่อนเนื้อที่ทำให้แกเกิดมา พุ่งปะทะโพรงมดลูกของแก ทำให้เกิดแรงขมิบตอดรัดมากเป็นหลายเท่าทวีคูณ 

"นี่ผมกับลูกสาวเย็ดกันแล้วหรือนี่" 

ผมอดคิดไม่ได้ ลำลึงค์ยังกระตุกปล่อยน้ำอีกสองสามครั้งก่อนจะสงบนิ่ง พร้อมไปกับร่างของน้องมีนกระตุกวาบๆ ตามท่อนเนื้อแข็งตอนนี้ยังคาอยู่ในโพรงสวาทของแก เราจูบกันอย่างดูดดื่ม ด้วยแรงปราถนาที่ยังไม่หมดสิ้น

"คุณพ่อสุดยอดเลยค่ะ..."

น้องมีนกระซิบบอกผม ผมยิ้มรับ

"ลูกก็สุดยอดเหมือนกันจ้ะ…"

ผมตอบพร้อมขยับบั้นเอวกระเด้าใส่ช่องสวรรค์ของแกเนิบๆ

"คุณพ่อทำให้มีนบ่อยๆ… นะคะ... มีนรักคุณพ่อที่สุดในโลกเลย…"

แก ตอบผม แล้วหยีตาด้วยความเสียวซ่านเพราะของของผมเริ่มขยับเข้าออกอีกครั้ง ผมจับขาลูกสาวข้างนึงยกขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าน้องชายของผมได้ควานร่องสวรรค์ของแกได้อย่างทั่วถึง น้องมีนครางกระเส่า

"คุณพ่อขาา... "

ผมชักออกสุดแล้วดันสลับกันไปมา น้ำรักของเราสองคนไหลย้อนออกมาเลอะแก้มก้นข้างนึงของแก ผมจับลูกพลิกตะแคงอีกนิด พร้อมกับโหย่งตัวให้เป็นท่านั่งยอง แล้วบรรจงกระเด้าท่อนแข็งใส่อย่างต่อเนื่อง ลูกสาวผมเกร็งนิ้วจิกผ้าปูที่นอน บิดไปมา 

เสียงครางซี๊ดดังประหนึ่งแทบขาดใจ ท่านี้เป็นท่าที่ผมทำได้ถนัดพอควร ทุกท่วงท่าลีลารักที่ประเคนใส่รูร่องลูกสาวผม เป็นไปอย่างรัญจวนใจยิ่ง จนผมไม่อยากให้เกมรักเกมนี้จบลงง่ายๆ โพรงสวาทของแกขมิบรัดน้องชายผมวาบๆ เสียงฟืดฟาดของลมหายใจ ทำให้ผมรู้ได้โดยอัตโนมัติว่า ลูกผมใกล้แล้ว ผมเร่งกระเด้าท่อนชายของผมใส่อย่างหนักหน่วง รุนแรงและต่อเนื่อง 

ผมเอื้อมมือข้างหนึงไปบีบบี้นมของแกเพื่อเพิ่มความหฤหรรษ์ในอารมณ์ให้ลูกสาว ปากแกร้องฟังไม่ได้ศัพท์ ผมเร่งความเร็วขึ้นไปอีก เสียงเชาะแชะของน้ำรักจากหน้าขาที่กระทบดังถี่ และเมื่อวาระสุดท้ายแห่งเกมกามาก็มาถึง

"คุณพ่ออออ.... "

น้องมีน ร้องเสียงหลง แต่สำหรับผมไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกจากปาก จะมีก็แต่น้ำกามที่พวยพุ่งอย่างแรงอีกครั้งใส่โพรงสวาทของลูกสาว ลูกสาวผมกระตุกวาบถี่ติดๆ กันนับครั้งไม่ถ้วน ผมกระเด้าซอยถี่ๆ ส่งให้แกอีกหลายครั้ง ก่อนที่จะฟุบหน้าลงกับอกสวยของแกที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำลายของผมที่ตะโบมโลม เลียอย่างอร่อยปาก 

เสียงลูกสาวผมหอบกระชั้น เวลาผ่านไปไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่า ท่อนกำยำของผมยังคาอยู่ ดูเหมือนมันจะยังไม่อิ่มเอมจากการเสพสังวาทกับรูฟิตของลูกสาวคนสวย ผมพลิกร่างลูกสาวขึ้นทับบนตัวผมในขณะที่มันยังคาคับอยู่ในรู ถึงตรงนี้ นางฟ้าตัวน้อยของผมกำลังนอนอยู่บนอกของพ่อเหมือนที่แกเคยนอนบ่อยๆ สมัยยังเล็ก แต่ต่างกันที่ตอนนี้ความเป็นชาย ของผู้เป็นพ่อสอดแทรกอยู่ในความเป็นหญิงของแก 

จนเราผลอยหลับกันท่านั้นด้วยความอ่อนเพลียลูกสาวของผมดูเปล่งปลั่งมากกว่า เดิมหลังจากคืนวันนั้น แน่นอนเมื่อมีครั้งย่อมต้องมีครั้งที่สอง สาม และสี่ และต่อไปเรื่อยๆ 

หลังจากคืนวันนั้นแล้วเรายังคงมีอะไรกันอีกในวันต่อมา และต่อมา เสมือนคู่ผัวตัวเมียที่อยู่ระหว่างฮันนีมูน เราประเคนบทรักใส่กันทุกคืนที่มีโอกาส จนลูกสาวผมต้องกินยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อเป็นการป้องกัน ต่อหน้าผู้อื่น เรายังคงเป็นพ่อลูกที่รักกัน ห่วงใยกันเหมือนพ่อลูกคนอื่นๆ แต่เมื่ออยู่ในบ้านกันตามลำพัง
เราคือผัวเมียกัน ระหว่างเรา ไม่มีอะไรจะต้องอายกันอีกแล้ว ลูกสาวผมจะขอกลืนกินน้ำรักของผมบ่อยครั้ง ขณะที่น้ำรักของแกผมดื่มกินเป็นประจำ 

และนี่หรือเปล่าที่เค้าเรียกกันว่า ยาอายุวัฒนะ

“ยัยมีน พักนี้ทำไมเธอดูสดใส เปล่งปลั่ง จังเลยฮึ … ไปอารมณ์ดีเรื่องอะไรมา” เมย์เอ่ยถามขณะสี่สาวนั่งกินขนมระหว่างรอเรียน

“เปล่านิ ชั้นก็ปกตินี่” มีนตอบ 

“ไม่หรอก พวกเราสังเกตเธอนะยะ … หรือกำลังมีความรัก” ปิ๊กพูดพร้อมกับเสียงโห่ฮาของเพื่อน

“บ้า” มีนพูดได้เท่านั้น 

“เอ… หรือคุณพ่อหาแม่ใหม่ให้เธอได้แล้ว” จูนเอ่ยแซวบ้าง 

“ไม่มีทางย่ะ คุณพ่อจะรักและมีชั้นคนเดียวตลอดไปจ้ะ” มีนว่าแล้วก็ยิ้มเอียงอายจนเพื่อนๆ อดสงสัยไม่ได้ 

“ชั้นว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เลย … เล่าให้เพื่อนฝูงฟังบ้างสิ หรือเดี๋ยวนี้เราไม่ใช่เพื่อนซี้กันแล้ว” เมย์ทำเสียงหยอก

“แหม.. พวกเธอนี่ ไม่มีอะไรจริงๆ” มีนว่าแล้วก็ลุกขึ้นเพื่อหยิบขยะไปทิ้ง แต่เพราะความเลินเล่อ ทำให้มือข้างนึงไปปัดถูกกระเป๋าสะพายของตัวเองหล่น สิ่งของในกระเป๋าหล่นกระจายเต็มพื้น 

“เฮ้ย!!!” สามสาวร้องขึ้นพร้อมกัน 

“นี่มันยาคุมนี่ … ยัยมีน มานี่เลย ทำไมแกถึงมีของแบบนี้อยู่ในกระเป๋า” จูนถาม แต่มีนไม่ตอบ แต่รีบก้มเก็บของยัดๆ ใส่กระเป๋า

ไม่ต้องเดินหนีไปไหน มานี่ … ไหน ตอบพวกเราหน่อยทำไมเธอมีของแบบนี้อยู่ในกระเป๋า” จูนรุกถาม 

“คือ….” มีนก้มหน้าอาย 

“พวกชั้นไม่เห็นเธอคบกับใครนี่นา แล้วอีกอย่าง คุณพ่อก็หวงเธอออกขนาดนั้น แล้วเธอไปทำอะไรมา” เมย์ถาม

“เอ่อออ…” ยังไม่มีคำตอบจากมีน

“พวกเราเห็นมีแต่คุณพ่อที่เป็นผู้ชายคนเดียวที่เกี่ยวพันกับชีวิตเธอในตะละวัน” ปิ๊กพูดบ้าง 

“เอ๊ะ หรือว่า….” เมย์พูด 

“บอกชั้นนะมีนว่าไม่ใช่” จูนถามพร้อมเอามือจับมือมีนไว้ ทั้งวงสนทนาตอนนี้เงียบสนิท น้องมีนก้มหน้า แล้วจึงพยักหน้าช้าๆ ทำเอาสามสาวตกใจ

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เริ่มเซ็งแซ่ ถามที่มาที่ไป จนฟังไม่ได้ศัพท์ ในขณะที่ปิ๊กนั่งฟังเพื่อนอย่างสงบ และเอ่ยปากพูดบ้าง 

“ชั้นก็คล้ายๆ กับเธอแหละมีน” ทุกคนหันควับมาที่ปิ๊ก 

“กับใคร กับใคร” คำถามพรั่งพรูจากเพื่อนๆ 

“เจ้าปอง” ปิ๊กตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 

“มันเกิดขึ้นได้ยังไง เล่าให้พวกเราฟังหน่อยสิ” เมย์ถาม “เอาสิ ชั้นจะเล่าให้ฟัง” 

ปิ๊กตอบน้ำเสียงราบเรียบ ‘เจ้าปอง’ ที่ปิ๊กหมายถึง เป็นน้องชายแท้ๆ ของปิ๊กที่อายุห่างกันปีเศษ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งนึง ด้วยความที่เป็นเด็กเรียนดี จึงสอบเอนทรานซ์ติดคณะดังกล่าว พ่อแม่จึงส่งให้มาอยู่กับพี่สาวที่เรียนอยู่ในกรุงเทพก่อนหน้าแล้ว 

จากความที่เป็นเด็กมุมานะกับเรื่องเรียนมาจากต่างจังหวัด เมื่อมาเจอกับแสงสีของเมืองฟ้าอมร ทำให้ปองเด็กหนุ่มวัยอยากรู้อยากลอง กลับกลายเป็นเด็กติดเพื่อน กินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวเตร่ จนแทบจะเสียการเรียน แต่ก็ยังได้ปิ๊กที่คอยช่วยประคับประคองน้องชาย

ที่พักของปิ๊ก เป็นอพาร์ตเมนท์ใกล้มหาวิทยาลัย มีเพียงห้องกว้างๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์นิดหน่อย ทำให้สองพี่น้องต้องนอนและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเสียมิได้ แต่ด้วยความเป็นพี่น้องทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่คิดอะไร จะกินจะนอนก็ทำกันอยู่ภายในห้อง โดยปองเลือกที่จะนอนปูผ้าบนพื้น แล้วให้ปิ๊กพี่สาวนอนบนที่นอน การดำเนินชีวิตยังคงเป็นไปตามปกติสุข 


จนกระทั่งเสาร์วันหนึ่ง ‘เอ๊ะ นี่อะไร’ ปิ๊กนึกในใจขณะมองเห็นคราบขาวจำนวนมากติดอยู่ที่เป้ากางเกงสีดำในใช้แล้วของเธอตัวหนึ่ง ตอนจะนำเสื้อผ้าทั้งหมดทั้งของเธอและน้องชายไปซัก แน่นอน มันจะเป็นอะไรไม่ได้ นอกจากคราบน้ำรักของผู้ชายที่เธอเคยเห็นและสัมผัสมาบ้าง และมันจะเป็นของใครไม่ได้เลยนอกจาก ปอง ผู้เป็นน้องชาย ระหว่างซักผ้า เธออดคิดไปต่างๆ นานาไม่ได้ ใช่! น้องชายเธอเป็นหนุ่มแล้ว ร่างกายกำยำสูงหนาตามประสาเด็กที่ช่วยพ่อแม่ทำงานที่บ้าน ขนตามลำตัวและแผ่นอกช่างดูเซ๊กซี่ยิ่งนักสำหรับเธอ 

และเมื่อเธอซักมาถึงกางเกงในผู้ชายตัวหนึ่ง เธอเผลอขบริมฝีปากและขยี้กางเกงในตัวนั้นอย่างลืมตัว เธอกำลังคิดถึงท่อนเอ็นของน้องชายตัวดีที่เธอเคยแอบเห็นด้วยความบังเอิญในหลายครั้ง ตอนปองกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ถึงแม้มันจะดูไม่ใหญ่มากนักยามยังไม่แข็งตัว แต่ถ้ามันแข็งตัว ขนาดของมันต้องไม่ใช่เล็กๆ แน่ๆ คิดแล้วเธอก็หน้าร้อนผ่าวทันที เกิดปฏิกิริยาเคมีบางอย่างในร่างกายของเธอแล้ว จนทำให้รู้สึกได้ถึงความชื้นฉ่ำของหว่างขา

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไป เธอก็เฝ้าสังเกตปองมาตลอด และทุกครั้งที่ซักผ้า เธอก็จะพบกับคราบน้ำรักแทบทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ มีคราบน้ำรักติดอยู่กับกางเกงในทุกตัวของเธอ แสดงว่าเจ้าปองต้องทำกับกางเกงในของเธอแทบทุกวันแน่ แต่มีอยู่ตัวหนึ่ง มันไม่ใช่แค่คราบน้ำแห้งกรัง แต่มันเป็นน้ำรักที่ยังสดๆ อยู่ สีขาวขุ่นข้นเต็มเป้ากางเกงในของเธอ 

เธอจำได้ว่าเพิ่งใส่เมื่อวาน บ่งบอกว่ามันต้องเพิ่งเกิดขึ้น เธอคิด เธอหน้าร้อนผ่าวด้วยความอาย แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกแปลกๆ ล่องลอย มือไม้สั่น จนเผลอยกกางเกงในที่เต็มไปด้วยน้ำรักขึ้นมาดม กลิ่นคาวของมัน ผสมกับกลิ่นกลิ่นบางอย่างของกางเกงในที่แนบชิดกับของสงวนเธอทั้งวัน ทำให้เธอรู้สึกใจสั่น เธอบอกตัวเองได้ทันทีว่าเธอกำลังมีอารมณ์ความต้องการ 

เธอถือมันเดินเข้าห้องน้ำ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้า แล้วเริ่มลงมือทำให้ตัวเองหายจากความกระสันต์อยาก เธอใช้กางเกงในตัวเองที่เลอะน้ำรักของน้องชาย ขยี้ปุ่มกระสันต์จนเสร็จสมไปในที่สุด มันช่างเป็นการช่วยตัวเองที่รู้สึกได้ถึงความรุนแรงมากกว่าครั้งไหนๆ

ตอนบ่ายเจ้าปองกลับถึงห้องในขณะเธอกำลังนอนดูทีวีอยู่บนเตียง 

“ไม่ไปไหนเหรอพี่ปิ๊ก” ปองถาม 

“ไม่ล่ะ วันนี้ไม่มีนัดที่ไหน ชั้นก็เลยซักผ้า เก็บกวาดห้อง” เธอตอบโดยไม่ได้ละสายตาจากจอทีวี 

“ดีแล้วที่ไม่ได้ไปไหน ข้างนอกร้อนมากเลยพี่ เดี๋ยวผมอาบน้ำก่อนนะ” 

บทสนทนาสิ้นสุดแค่นั้น ปองหยิบผ้าขนหนูมาคาดเอว แล้วเริ่มถอดกางเกงยีนส์ออก พร้อมกับรูดกางเกงใน จังหวะยกขาเพื่อเอาขากางเกงออก ปิ๊กลอบสายตาแอบไปมองเห็นเข้าพอดีในแว่บนึง แล้วก็รู้สึกหน้าแดง เมื่อสิ่งที่เธอเห็น คือ ลำเนื้อของน้องชายที่พองตัวเล็กน้อย ห้อยอยู่ตรงหว่างขา เธอรีบละสายตาหนีสายตาปองที่มองมาพอดี จิตใจตอนนี้ว้าวุ่นอย่างยิ่ง จนอดไม่ได้ที่จะคว้าหมอนข้างมากอด และหนีบไว้ที่หว่างขา จนเผลอหลับไป 

เมื่อลืมตาตื่นลุกขึ้น เธอคว้านาฬิกามาดู เกือบหกโมงเย็นแล้ว มองไปทางข้างเตียง เจ้าปองน้องชายกำลังหลับ เธอมองเจ้าน้องชายอย่างรู้สึกเอ็นดู แต่สายตาก็ต้องสะดุดเข้ากับบางอย่างที่ลุกชูชันบริเวณหน้าขาของปอง ปองนุ่งกางเกงบอลผ้าลื่นๆ และแน่นอน ไม่ได้นุ่งกางเกงใน ไม่อย่างนั้นท่อนเนื้อคงไม่ชูชันได้อย่างอิสระเช่นนี้ ปิ๊กกลืนน้ำลาย แต่มันช่างยากเย็นนัก เพราะลำคอที่แห้งผากของเธอ ปิ๊กพยายามสลัดความคิดนั้น แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ

หลังเสร็จกิจออกมาจากห้องน้ำ สิ่งที่เห็นยิ่งทำให้จิตใจเธอเร้าร้อนมากขึ้นไปอีก เพราะภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้ คือท่อนเนื้อที่แข็งตัวเต็มที่ภายในกางเกงน้องชาย จากการที่ขากางเกงข้างหนึ่งถูกพัดลมที่ปลายเท้าปองพัดเพยิบพยาบ เธอตื่นตะลึงกับความโอฬารของมัน มันใหญ่กว่าลำเนื้อของแฟนเก่าที่เธอเคยคบหาและมอบความสาวให้มากมายชนิดเทียบกันไม่ได้ เธอจะทำยังไงกับความรู้สึกแบบนี้ดี ปิ๊กคิดในใจ

คืนวันนั้น ต่างคนต่างหลับนอนในที่ประจำของตัวเอง ปิ๊กหลับฝันไปว่า น้องชายกำลังละเลงปลายลิ้นใส่ร่องหลืบของเธอ จนเธอแอ่นสะโพกระแดะสู้ปลายลิ้นที่ตะโบมโลมเลียและดูดอย่างเมามันส์ ร่างของเธอเกร็งเป็นระยะ น้ำรักที่ถูกขมิบออกมากระชั้นถี่ ใช่! เธอกำลังจะเสร็จสม

แต่ดูเหมือนน้องชายจะรู้แกวว่าพี่สาวกำลังจะใกล้ถึงฝั่งฝัน จึงหยุดการกระทำนั้น แล้วเปลี่ยนเป็นงัดเอาท่อนเนื้อสีคล้ำที่เธอเคยแอบเห็น ออกมาจรดจ่อกับร่องสงวน แล้วค่อยๆ ดันเข้ามา จากความที่ห่างหายจากการร่วมเพศมานาน เธอรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที แต่ก็ยังช่วยเหยียดขาอ้าออก เพื่อให้เจ้าท่อนเนื้อลำนั้นผ่านเข้ามาในร่างกายของเธอ มันค่อยๆ เลื้อยผ่านส่วนที่แคบที่สุด ประดุจงูยักษ์กำลังเลื้อยเข้าถ้ำ เลื้อยผ่านเข้ามาช้าๆ ช้าๆ และช้าๆ จนลำตัวของงูใหญ่ทั้งตัว จมหายเข้าไปในถ้ำ

ในความรู้สึกตอนนั้น น้องชายเธอเริ่มขยับตัว ค่อยชักออกช้าๆ และดันเข้ามาจนสุดอีกครั้ง เสียงลมหายใจฟืดฟาดเพราะความเสียวของทั้งคู่ เสียงกัดฟันกรอด และเสียงซี๊ดเสียวเป็นระยะ ช่างไพเราะยิ่งนักในยามนี้ ปองขยับช้อนขาปิ๊กให้สะโพกลอยสูง แล้วเริ่มบรรเลงบทเพลงกามาประเคนควยใส่รูหีของพี่สาว จากเชื่องช้า จนรวดเร็วและรุนแรงในที่สุด ปิ๊กได้แต่สงเสียงครวญครางด้วยความกระสันต์ 

ในขณะที่เจ้าปองก็บรรจงซอยก้นดันเด้าถี่ยิบ เสียงน้ำคัดหลั่งของทั้งคู่ดังเชาะแชะตามแรงเสียดสีและกระทบกันของแคมอวบของปิ๊กกับพวงไข่ของน้องชาย ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ปองกัดฟันกรอดอีกครั้ง ปิ๊กขบกัดริมฝีปากตัวเอง 

“อูยยย พี่ปิ๊กเย็ดมันส์จัง … กรอดดด ซี๊ด” เสียงน้องชายร้องบอก 

“หีแน่นเหลือเกิน … อูยยยยย” พูดพรางกระเด้าพราง 

“ปองเร็วๆ พี่ใกล้แล้ว” ปิ๊กเผลอพูดออกมา 

“แรงๆ เลยปอง เย็ดพี่แรงๆ … อาาาาา” 

“เร็วขึ้นอีกปอง … พี่ใกล้แล้ว …” เจ้าปองซอยก้นกระเด้าเร่งถี่ยิบอย่างไม่คิดชีวิต และแล้ว

“โอวววววว ปอง พี่เสร็จแล้วปอง” ปิ๊กร้อง “รอผมด้วยพี่ รอผมด้วย” 

พูดได้เท่านั้น ปองก็ฉีดน้ำรักใส่ช่องคลอดพี่สาวอย่างแรง น้ำแรกที่ฉีดเข้ามา ช่วยเร่งให้ปิ๊กเสร็จสมอย่างรุนแรงไปด้วย รูหีขมิบตอดลำควยน้องชายอย่างหนักหน่วง ปิ๊กไม่เคยรู้สึกถึงความสุขสมมากมายเท่านี้มาก่อน ในขณะที่น้องชายกปล่อยน้ำควยพุ่งเข้าร่องสวรรค์ของเธออีกสองสามครั้งจนหมดกระสุน

สงครามแห่งกามาของสองพี่น้องจบลงแล้ว ปิ๊กยังขมิบตอดแท่งรักของน้องชายที่ยังแข็งโด่เป็นระยะๆ เจ้าปองจะดึงออก แต่ปิ๊กเอาขาเกี่ยวข้อพับน้องชายไว้ไม่ให้เอาออก จนต่างเผลอตัวหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนในตอนไหนไม่รู้ 

จนถึงเช้า และเช้าวันนั้นปิ๊กก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าทั้งของตัวเองและน้องชายตะกรองกอดกันอยู่ ร่องหลืบของเธอฉ่ำชื้นเต็มไปด้วยน้ำอะไรซักอย่างซึ่งไม่ต้องคาดเดาเลยว่า มันคือน้ำรักจากลำควยของน้องชายที่ฉีดใส่โพรงสวาทของเธออย่างเต็มเหนี่ยวเมื่อคืนที่ผ่านมา

เพื่อนๆ ต่างนั่งเงียบเมื่อปิ๊กเล่าจบ แต่ละคนรู้สึกอย่างไรไม่มีใครรู้ รู้แต่เพียงว่า คืนนั้นน้องมีนเล่าให้ผมผู้เป็นพ่อฟัง ขณะที่เรานอนกอดกันเหมือนเคยบนที่นอนที่น้องมีนมอบความสาวให้ผม ก่อนที่บทรักแห่งพ่อลูกจะถูกบรรเลงในลำดับถัดไป...............



อย่าลืมกดติดตามทวิตไหม่ไว้นะ

ทวิตสำรอง https://twitter.com/v243091759

เผื่อทวิตบิน อย่าลืมแอด VK เอาไว้นะ 

แม่ยอมให้ลูกเย็ด อยากเย็ดแม่ โดนอากงเย็ด เสียวจัง จะเล่นเกมหรือจะเย็ดแม่ อยากเย็ดลูก โดนพ่อเย็ดจนท้อง น้ำควยพ่อ พ่อเย็ดแรงๆ อมให้พ่อ ควยลูก ทวิต แตกในลูกสาว เรื่องเสียว แม่ลูก bdsm ผัวขาเย็ดแรงๆ แม่เจ็บหี แม่ร่านควย ชอบเย็ด โดนพ่อเย็ด การ์ตูนพ่อเย็ดลูกสาว ดูหนังโป๊เด็ด หนัง18+ อ่านเรื่องเสียว incestcaption หนังโป๊แนวครอบครัว พ่อเย็ดลูก ลูกเย็ดแม่ lionthelast galsexy เย็ดหีแม่แรงๆ ท้องกับลูกชาย เย็ดลูกสาว จุดกางเเตด incestcaption galsexy กระหรี่ของพ่อ จุดกางเเตต.com อยากเย็ดลูกสาว ชอบเย็ดลูก โดนพ่อเย็ด รูหีแม่ พ่อเสียว รวมคลิปเสียว incest ไทย ดูดควยพ่อ อยากท้อง แม่เป็นกระหรี่ โดนควยพ่อ ขย่มควยพ่อ อยากเย็ดกับแม่ อาบน้ำกับลูกชาย ดูดควยพี่ชาย เย็ดแปลไทย

ความคิดเห็น